การสร้างฟังก์ชันแบบเรียกตัวเอง (recursive function)

การสร้างฟังก์ชันแบบเรียกตัวเอง (recursive function)

ตัวอย่าง การหาค่าแฟลทอเรียล n!

<?
function factorial ($n) {
if ( ($n == 0) || ($n == 1) )
return 1;
else
return $n*factorial($n-1);
}
echo factorial(4);

?>

เงื่อนไขก็ใช้ฟังก์ชัน factorial() จากตัวอย่างข้างบน คือ $n จะต้องเป็นตัวแปรที่เก็บค่าที่เป็นเลขจำนวนเต็ม และไม่เป็นลบ ถ้าเราต้องการจะเขียนฟังก์ชันให้มีความปลอดภัยในการใช้งาน เราก็อาจจะเพิ่มเงื่อนไข เพื่อตรวจเช็คดูก่อนว่า ผู้ใช้ผ่านค่าของตัวแปรที่ตรงตามต้องการหรือไม่ เช่น ไม่ผ่านค่าที่เป็นสตริงค์ หรือเป็นเลขทศนิยม หรือค่าที่เป็นลบ เป็นต้น

ตัวอย่าง การค้นหาข้อมูลแบบ Binary Search ในอาร์เรย์ที่มีการเรียงข้อมูลจากน้อยไปมาก

<?

function binSearch(&$key,&$array, $left, $right)
{
$mid = ceil( ($left + $right) / 2 );

if ($left > $right)
return -1;
if ($array[$mid] == $key)
return $mid;
else if ($key < $array[$mid])
return binSearch($key, $array, $left, $mid-1); // recursive call
else
return binSearch($key, $array, $mid+1, $right); // recursive call
}

$num=100;
$key = randInt(0, $num);
for($i=0; $i < $num; $i++) {
$sorted_array[$i] = $i+1;
}

echo binSearch(13, $sorted_array, 0, $num);

?>

ตัวอย่าง การสร้างสตริงค์แบบสุ่มอีกแบบหนึ่งซึ่งอาจจะนำไปใช้ในการสร้าง one-time password ( OTP)

<?

function randomToken($len) {
srand( date(“s”) );
$chars = “ABCDEFGHIJKLMNOPQRSTUVWXYZabcdefghijklmnopqrstuvwxyz”;
$chars.= “1234567890!@#$%^&*()”;
$ret_str = “”;
$num = strlen($chars);
for($i=0; $i < $len; $i++) {
$ret_str.= $chars[rand()%$num];
}
return $ret_str;
}

echo randomToken(13),” “;

?>

หมายเหตุ: การกำหนดค่า seed สำหรับฟังก์ชัน srand() นอกจะใช้ date(“s”) เป็นตัวกำหนดค่าแล้ว เราอาจจะใช้ฟังก์ชันอื่นก็ได้ เช่น srand((double)microtime()*1000000);