เจ้าหน้าที่การค้าสหรัฐฯ เตรียมเปิดเผยในวันพฤหัสบดี เกี่ยวกับการตัดสินใจว่าจะเก็บภาษีเพิ่มกับแผงโซลาร์นำเข้าจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 4 ประเทศหรือไม่ ซึ่งเป็นแนวคิดที่บรรดาองค์กรสนับสนุนพลังงานสะอาดโต้แย้งว่า อาจเป็นอันตรายต่อความพยายามต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก
คำประกาศของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะถือเป็นความคืบหน้าล่าสุดในความพยายามของบรรดาผู้ผลิตแผงโซลาร์ในสหรัฐฯ ที่ต้องการสกัดการไหลทะลักเข้ามาของสินค้าราคาถูกจากเอเชียที่พวกเขามองว่า แผงโซลาร์ผลิตในอเมริกาไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้
โดยคำตัดสินขั้นสุดท้ายคาดว่าจะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมปีหน้า
อย่างไรก็ตาม แม้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะตัดสินใจขึ้นภาษีนำเข้าแผงโซลาร์จากไทย เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชาจริง มาตรการดังกล่าวก็จะยังไม่มีผลจนกระทั่งปีค.ศ. 2024 ภายใต้เงื่อนไขการผ่อนผันเวลาที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามไว้เมื่อต้นปีนี้ ที่มีเป้าหมายเพื่อให้อุตสาหกรรมผลิตแผงโซลาร์ของสหรัฐฯ สามารถพัฒนาตัวเองขึ้นมาในช่วงสองปีจากนี้
ทั้งนี้ รัฐบาลไบเดนมีเป้าหมายยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในการผลิตไฟฟ้าภายในปีค.ศ. 2035 ซึ่งหมายความว่า อเมริกาต้องพึ่งพาพลังงานจากแสงอาทิตย์ราว 40% ของปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด จากระดับเพียง 3% ในปัจจุบัน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ใช้เวลา 8 เดือนที่ผ่านมาในการตรวจสอบคำร้องของบริษัทผู้ผลิตแผงโซลาร์ในสหรัฐฯ ว่า คู่แข่งในประเทศจีนใช้วิธีโยกย้ายฐานการผลิตไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 4 ประเทศเพื่อเลี่ยงมาตรการเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มของรัฐบาลอเมริกันจริงหรือไม่
ปัจจุบัน แผงโซลาร์ราว 80% ที่อยู่ในตลาดสหรัฐฯ นำเข้าจาก 4 ประเทศอาเซียนดังกล่าว
ที่มา: รอยเตอร์
- READ MORE
By thai@voanews.com (Reuters)
Fri, 02 Dec 2022 05:40:58 +0700