ตอนนี้ดูเหมือนว่าภาพยนตร์ที่มาจากบริการสตรีมมิ่ง Netflix จะกลายเป็นหนังกระแสหลักเข้าไปทุกที และหนึ่งในภาพยนตร์ที่ถูกกล่าวถึงบนงานประกาศรางวัลทั้งลูกโลกทองคำและออสการ์ ก็หนีไม่พ้น Marriage Story ที่ได้อดัม ไดรเวอร์ พ่อหนุ่มไคโล เรน จาก Star Wars ไตรภาคล่าสุด และสการ์เล็ต โจแฮนสัน แบล็ควิโดว์สาวสวยจากค่ายมาร์เวล มาฟาดฟันบทบาทสุดดราม่าน้ำตาท่วมจอไปด้วยกัน Marriage Story เล่าถึงชีวิตคู่ของชาร์ลีย์ ผู้กำกับละครเวทีจอมติสต์แตกจากฝั่งนิวยอร์ก และนิโคล อดีตดาราสาวดาวรุ่งอยากกลับไปโด่งดังอีกครั้งในวงการฮอลลีวู้ด แต่ด้วยวิถีการฟ้องหย่าในอเมริกา ที่พร้อมจะสาวไส้อีกฝ่ายอย่างเต็มกำลัง เข้าปั่นป่วนชีวิตของคู่เคยรักให้กลายเป็นคู่ร้างในเวลาไม่นาน หนังเริ่มจากพิธีรีตรองของการแยกกันอยู่ตามสไตล์ตะวันตก ซึ่งดูเหมือนว่าจะจบลงด้วยดี ก่อนที่จะใช้นิวยอร์กและแอลเอเป็นซิมโบลิกสะท้อนวิถีชีวิตที่แตกต่างอย่างสุดขั้วของพระนาง ฉากต่างๆที่ดูราบเรียบเหมือนกับชีวิตคนทั่วไป แต่ด้วยบทพูดที่แน่นเรื่อง ถ้านักแสดงไม่ถึงเครื่องอาจทำให้หนังพังได้ เรื่องนี้ต้องปรบมือให้กับทัพนักแสดงทั้งพระ-นาง อดัม ไดรเวอร์ และสการ์เล็ต โจแฮนสัน ที่จับมือโอบอุ้มหนังให้กลายเป็นสนามปะทะทางอารมณ์อย่างเข้มข้น มีความเล่นใหญ่เกินฉาก หนังกระชากความเป็นมนุษย์ที่มีความรัก โลภ โกรธ หลง แต่ต่อว่าพวกเขาไม่ลงเพราะนี่คือชีวิตคู่รักที่กำลังจะพังลงไปจริงๆ และเรากลับทำอะไรไม่ได้ นอกจากนั่งมองมันพังลงไปต่อหน้าต่อตา เหมือนระเบิดเวลาที่พร้อมจะจุดชนวนได้ทุกวินาที Marriage Story เป็นภาพยนตร์ดราม่าที่ดูเรียบง่ายแต่ให้ความหน่วงในอารมณ์ และสะท้อนว่าความรักไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างเสมอ ... (วิจารณ์ภาพยนตร์โดยนีธิกาญจน์ กำลังวรรณ) - READ MORE

By

Sat, 25 Jan 2020 08:22:49 +0700