ทำเนียบขาวและสำนักงานความปลอดภัยประธานาธิบดีสหรัฐฯ หรือ Secret Service ยืนยันว่า ไม่มีบันทึกรายชื่อผู้ที่เยือนบ้านของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่รัฐเดลาแวร์ ที่ซึ่งพบเอกสารลับของทางการสหรัฐฯ ในสมัยที่ไบเดนเป็นรองประธานาธิบดี ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ สำนักงานกฎหมายของทำเนียบขาวแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า "เช่นเดียวกับประธานาธิบดีอเมริกันทุกคนในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ที่บ้านพักถือเป็นสถานที่ส่วนตัว" ทางด้านสำนักงานความปลอดภัยประธานาธิบดี ยืนยันเช่นกันว่า "ไม่มีการเก็บบันทึกรายชื่อแขกที่เยือนบ้านประธานาธิบดี เพราะนั่นเป็นบ้านพักส่วนตัว" เมื่อวันอาทิตย์ ส.ส.เจมส์ โคเมอร์ ประธานฝ่ายพรรครีพับลิกันในคณะกรรมาธิการการกํากับดูแลสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ต้องการให้มีการแสดงบันทึกผู้ที่เยือนบ้านพักของประธานาธิบดีไบเดนในเมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ หลังจากที่พบเอกสารลับของทางการในสำนักงานและโรงจอดรถที่บ้านหลังนั้น ทางพรรครีพับลิกันพยายามเปรียบเทียบเอกสารที่พบในบ้านของไบเดน กับเอกสารลับที่พบในบ้านพักตากอากาศ มาร์-อะ-ลาโก ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์​ ที่รัฐฟลอริดา ซึ่งกำลังอยู่ภายใต้กระบวนการสอบสวนทางอาญาของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ว่า เอกสารเหล่านั้นได้รับการจัดเก็บอย่างถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ โดยที่ผ่านมา พรรคเดโมแครตพยายามขอบันทึกกแขกผู้มาเยือนที่บ้านพักของทรัมป์เช่นกัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายชี้ถึงความแตกต่างของทั้งสองกรณีนี้ โดยทำเนียบขาวระบุว่า ได้ส่งคืนเอกสารลับที่พบให้กับหอจดหมายเหตุของสหรัฐฯ หรือ US National Archives แล้วในทันที ขณะที่ทรัมป์ยืนกรานปฏิเสธที่จะส่งคืนเอกสารดังกล่าว จนกระทั่งเจ้าหน้าที่เอฟบีไอเข้าค้นบ้านพักของเขาที่รัฐฟลอริดาเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้ ทีมกฎหมายของปธน.ไบเดน เปิดเผยว่า พบเอกสารลับของทางการตั้งแต่สมัยที่ไบเดนยังเป็นรองประธานาธิบดี ที่สำนักงานคลังสมองของไบเดนในกรุงวอชิงตัน และที่บ้านพักของไบเดนในรัฐเดลาแวร์ ต่อมาเมื่อวันเสาร์ ทนายความของไบเดนเผยว่า พบเอกสารลับเพิ่มอีก 5 ชุดที่บ้านของไบเดนเช่นกัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ เมอร์ริค การ์แลนด์ แต่งตั้งที่ปรึกษาพิเศษทางกฎหมาย ให้ทำหน้าที่สอบสวนกรณีการจัดเก็บเอกสารลับของไบเดนว่า เป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ เช่นเดียวกับที่กำลังมีการตรวจสอบกรณีพบเอกสารลับที่บ้านพักของทรัมป์ ที่มา: รอยเตอร์ - READ MORE

By thai@voanews.com (Reuters)

Wed, 18 Jan 2023 02:59:17 +0700