เมื่อบอลลูนต้องสงสัยว่าเป็นเครื่องมือสอดแนม เคลื่อนผ่านน่านฟ้าสหรัฐฯ ทางตอนเหนือของหมู่เกาะอะลูเชียน ในอลาสกา เมื่อวันที่ 28 มกราคม เจ้าหน้าที่อเมริกันเชื่อว่ามีโอกาสสูงที่บอลลูนดังกล่าวจะมุ่งหน้าต่อไปทางตอนเหนือที่มีประชากรเบาบาง
แต่ในระยะ 2 วันหลังจากนั้น บอลลูนดังกล่าวได้ทำบางอย่างที่ไม่คาดคิด นั่นคือ การลดระดับความเร็วในการเคลื่อนที่ เกือบหลุดพ้นไปถึงน่านฟ้าแคนาดา จากนั้นก็เปลี่ยนเส้นทางและมุ่งหน้าไปทางตอนใต้ในเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังรัฐไอดาโฮ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางการสหรัฐฯ ซึ่งไม่ประสงค์ออกนามระบุว่า “นั่นคือช่วงเวลาที่เรารู้ว่าเรื่องนี้มันแตกต่างจากที่คิดไว้”
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ไม่ประสงค์ออกนามเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า แม้ว่าบอลลูนสอดแนมของจีนได้เคยเคลื่อนผ่านดินแดนสหรัฐฯ มาก่อนในอดีต แต่รูปแบบที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวของสหรัฐฯ หลายแห่งเช่นนี้ ได้สร้างความกังวลให้กับกองบัญชาการเพื่อการป้องกันตนเองทางอากาศภาคพื้นอเมริกาเหนือ (North American Aerospace Defense Command – NORAD) ขึ้นมา
สหรัฐฯ มีทั้งฐานทัพและคลังเก็บขีปนาวุธในรัฐมอนทานา ซึ่งอยู่ติดกับรัฐไอดาโฮ ซึ่งการปรากฎขึ้นของบอลลูนจีน ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองในสหรัฐฯ และทำให้รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน ยกเลิกแผนการเยือนกรุงปักกิ่ง ที่ทั้งจีนและสหรัฐฯ คาดหวังว่าจะกลับมาฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่สั่นคลอนในช่วงที่ผ่านมาได้
เมื่อวันอังคารที่แล้ว ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้สอบถามทางเลือกด้านการทหารเพื่อรับมือกับวิกฤตที่ไม่ได้รับการเปิดเผยซึ่งกำลังยกระดับขึ้น
เจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ ได้เตรียมแผนที่จะยิงบอลลูนตกในวันพุธที่ผ่านมา ในช่วงที่บอลลูนเคลื่อนที่เหนือรัฐมอนทานา ซึ่งแผนการดังกล่าวรุดหน้าไปถึงขั้นออกคำสั่งหยุดบริการภาคพื้นดินของสนามบินบิลลิงส์ ในรัฐมอนทานาในวันดังกล่าว เพื่อเคลียร์น่านฟ้าในช่วงที่เครื่องบินขับไล่ F-22 ในกรณีที่ปธน.ไบเดน ออกคำสั่งให้ยิงบอลลูนตก
เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า “แม้ว่าจะมีมาตรการป้องกันไว้ แต่นี่เป็นดุลพินิจของผู้บัญชาการทหารของเราที่มองว่าเรายังไม่ลดความเสี่ยงลงมากพอ ดังนั้นเราจึงตัดสินใจไม่ยิงบอลลูน”
เจ้าหน้ากองทัพสหรัฐฯ อีกรายที่ไม่ประสงค์ออกนาม เปิดเผยกับรอยเตอร์ด้วยว่า เศษซากบอลลูนได้ตกลงมาในรัศมีอย่างน้อย 11 กิโลเมตร ซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อชาวอเมริกันและสร้างความเสียหายต่อระบบโครงสร้างพื้นฐาน
ดังนั้น ทางเลือกที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด คือ การยิงบอลลูนตกเหนือผืนน้ำ ตามที่ทางการสหรัฐฯ ระบุ ซึ่งเป็นท่าทีที่จะช่วยหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ในการเก็บชิ้นส่วนบอลลูนของจีนขึ้นมาศึกษาต่อไป
ทางการสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะกล่าวว่าพื้นที่ใดบ้างที่บอลลูนจีนได้เก็บข้อมูลสำรวจไปบ้าง ซึ่งดูเหมือนว่าบอลลูนดังกล่าวจะเคลื่อนที่เข้าใกล้ฐานทัพสหรัฐฯ ที่มีความอ่อนไหวหลายจุด รวมทั้งฐานทัพอากาศมาล์มสตรอม (Malmstrom) ในรัฐมอนทานา ซึ่งดูแลคลังเก็บขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป 150 ลูก และฐานทัพอากาศออฟุตต์ (Offutt) ในรัฐเนบราสกา ที่ตั้งของกองบัญชาการยุทธศาสตร์สหรัฐฯ (U.S. Strategic Command) ซึ่งรับผิดชอบกองกำลังนิวเคลียร์
นอกจากนี้ บอลลูนดังกล่าวยังเคลื่อนผ่านฐานทัพอากาศไวท์แมน (Whiteman) ในรัฐมิสซูรี ซึ่งรับผิดชอบฝูงเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ไม่ประสงค์ออกนาม เปิดเผยกับรอยเตอร์อีกว่า บอลลูนนี้สามารถลอยตัวเหนือพิกัดที่ระบุเฉพาะเจาะจงได้ โดยระบุว่า “เราเห็นมันทำเช่นนั้นได้ มันลอยคว้างอยู่เหนือพื้นที่หนึ่ง มันเคลื่อนไปทางขวา ไปทางซ้าย เราเห็นว่ามันเคลื่อนที่ในกระแสลมกรด (jet stream) นั่นคือวิถีการทำงานของมัน” และยังเสริมด้วยว่าบอลลูนดังกล่าวมีทั้งใบพัดและหางเสืออีกด้วย
ทางการจีนระบุว่าบอลลูนดังกล่าวเป็นของพลเรือน ซึ่งใช้สำหรับการตรวจสอบสภาพอากาศและจุดประสงค์อื่น ๆ และบอลลูนนี้หลงเข้าไปในน่านฟ้าสหรัฐฯ “โดยเป็นอุบัติเหตุอย่างแท้จริง”
ในวันพุธที่ผ่านมา รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เวนดี เชอร์แมน พบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถานทูตจีน ในประเด็นดังกล่าว
ปธน.ไบเดน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่คุ้มกันพื้นที่อ่อนไหวจากการเก็บข้อมูลของจีน จากที่ทางกองบัญชาการเพื่อการป้องกันตนเองทางอากาศภาคพื้นอเมริกาเหนือ ได้ติดตามเส้นทางการเคลื่อนที่ของบอลลูนทั่วประเทศ และสหรัฐฯ เริ่มเก็บข้อมูลเกี่ยวกับบอลลูนดังกล่าวแล้ว รวมทั้งรูปแบบการทำงานของมันด้วย
หลังจากการติดตามเส้นทางการเคลื่อนของบอลลูนจีน และความขุ่นเคืองที่พุ่งพล่านของสาธารณชนเกี่ยวกับเรื่องนี้ รัฐมนตรีบลิงเคนได้ตัดสินใจยกเลิกทริปเยือนจีนอย่างเป็นทางการทันที ก่อนที่ทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ คาดว่าบอลลูนนี้จะลอยเหนือน่านฟ้าสหรัฐฯ ได้อีกประมาณ 2-3 วันข้างหน้าเท่านั้น
หลังจากท่าทีอย่างเป็นทางการของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการจัดการบอลลูนที่มีออกมา บอลลูนลูกนี้ก็เร่งความเร็วขึ้นมา มุ่งหน้าไปยังชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนา ทางการสหรัฐฯ ระบุว่า ยังไม่มีความชัดเจนบอลลูนเร่งความเร็วไปมากแค่ไหน
ปธน.ไบเดน อนุมัติแผนยิงบอลลูนตกในค่ำวันศุกร์ ระหว่างที่อยู่ในเมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ นำไปสู่การเตรียมการภารกิจอย่างรวดเร็ว
องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ NASA ได้วิเคราะห์และประเมินพื้นที่ที่เศษซากบอลลูนจะตก บนพื้นฐานของเส้นทางบอลลูน สภาพอากาศ และความสามารถในการนำส่งข้อมูลของระบบเซนเซอร์ รวมทั้งปฏิบัติการภาคพื้นดินและทางอากาศของกองทัพสหรัฐฯ
เครื่องบินขับไล่และเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงจำนวนมากได้เข้าร่วมภารกิจจัดการบอลลูนจีนครั้งนี้ แต่เครื่องบินขับไล่ F-22 จากฐานทัพอากาศแลงลีย์ (Langley) ในเวอร์จิเนีย เป็นฝ่ายยิงบอลลูนตกเมื่อเวลา 14.39 น. ในวันเสาร์ โดยใช้ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ AIM-9X Sidewinder ยิงบอลลูนตกที่ความสูง 60,000-65,000 ฟุต หรือราว 18-20 กิโลเมตรจากพื้นดิน
อุปกรณ์ส่งข้อมูลของบอลลูนจีนตกลงไปในทะเล โดยมีระยะที่เศษซากบอลลูนตกในรัศมี 11 กิโลเมตรและเป็นพื้นที่น้ำตื้นตามคาดการณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ ให้ข้อมูลกับ the Atlantic ว่าเงื่อนไขเหล่านี้ทำให้ปฏิบัติการกู้คืนชิ้นส่วนของบอลลูนนั้น “เป็นไปอย่างง่ายดาย”
เมื่อภารกิจดังกล่าวเสร็จสิ้น รัฐบาลอเมริกันได้แจ้งเตือนทางการจีน ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นกับชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน
ด้านทางการจีนประณามการกระทำของสหรัฐฯ และกล่าวหาว่าสหรัฐฯ “ตื่นตูมเกินไป”
ความตึงเครียดยกระดับ
ในทัศนะของนักวิเคราะห์เห็นว่าประเด็นบอลลูนสอดแนมนี้ จะยิ่งสร้างความคลาแคลงใจระหว่างสหรัฐฯ และจีนขึ้นไปอีก
จา เอียน ชอง อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์จาก University of Singapore อธิบายว่า สิ่งที่สหรัฐฯ ได้ทำเหมือนกับพฤติกรรมของจีนในอดีต ดังนั้นเหตุผลที่จีนตัดสินใจที่มีท่าทีแข็งกร้าวต่อเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ยังไม่ได้อธิบายไว้ทั้งหมด และรัฐบาลปักกิ่งไม่มีความโปร่งใสพอที่จะบอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับการตัดสินใจของพวกเขา” และย้ำว่า “การขาดข้อมูลยิ่งสร้างปริศนาและสร้างพื้นที่ให้เกิดการคาดเดาต่าง ๆ นา ๆ”
ด้านซูกิโอะ ทาคาฮาชิ หัวหน้าฝ่ายนโยบายกลาโหมจาก National Institute for Defence Studies ในญี่ปุ่น บอกว่า บอลลูนจีนเป็นการละเมิดอธิปไตยและน่านฟ้าของสหรัฐฯ อย่างชัดแจ้ง และการที่สหรัฐฯ ตัดสินใจยิงบอลลูนตกนั้นเป็นการตัดสินใจที่ “ชอบธรรม”
ช่องโหว่ด้านข่าวกรอง
เมื่อสุดสัปดาห์ ส.ส.รีพับลิกัน ไมเคิล วอลท์ซ ซึ่งเป็นคณะกรรมาธิการด้านข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ให้ข้อมูลว่ามีบอลลูนสอดแนมของจีนลอยเหนือน่านฟ้าสหรัฐฯ อย่างน้อย 3 ครั้ง ในยุคของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และ 1 ครั้งในยุคการบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
แต่เมื่อวันจันทร์ นายพลอาวุโสของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งเกี่ยวข้องกับปฏิบัติยิงบอลลูนจีนตก นายพลเกลน แวนเฮิร์ก ผู้บัญชาการกองบัญชาการเพื่อการป้องกันตนเองทางอากาศภาคพื้นอเมริกาเหนือและกองบัญชาการเหนือของสหรัฐ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่ากองทัพไม่พบเหตุการณ์บอลลูนสอดแนมมาก่อนที่จะพบบอลลูนลูกนี้เมื่อ 28 มกราคมที่ผ่านมา พร้อมกับเรียกเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็น “ช่องโหว่ด้านข่าวกรอง”
จนถึงขณะนี้ ทางการสหรัฐฯ ยังไม่ได้เปิดเผยว่าสภาพของเซนเซอร์สอดแนมของบอลลูนดังกล่าวอยู่ในสภาพสมบูรณ์แค่ไหนหลังสหรัฐฯ ยิงบอลลูนตก ซึ่งนั่นจะเป็นปัจจัยบ่งชี้ถึงความสำเร็จของสหรัฐฯ ในการจัดการบอลลูนสอดแนมนี้ได้
ที่มา: รอยเตอร์
- READ MORE
By thai@voanews.com (Reuters)
Tue, 07 Feb 2023 05:32:38 +0700