Search
 
NEWS
 

‘เจมส์ คาเมรอน’ เผย ข้องใจความปลอดภัย ‘เรือดำน้ำชมซากไททานิก’ มาพักหนึ่งแล้ว

 
 
เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังที่เป็นสมาชิกธุรกิจผลิตเรือดำน้ำขนาดเล็ก กล่าวว่า ตนน่าจะออกมาเตือนเรื่องของความปลอดภัยของเรือดำน้ำ ‘ไททัน’ ที่พาคณะนักท่องเที่ยวดำดิ่งลงไปชมซากเรือเดินสมุทรไททานิก ก่อนจะประสบเหตุระเบิดจากภายในตัวเรือซึ่งส่งผลให้บุคคลทั้งหมด 5 รายในคณะเสียชีวิต ตามรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ คาเมรอนนั้นกลายมาเป็นนักสำรวจใต้ทะเลลึกในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1990 เพราะต้องหาข้อมูลสำหรับการสร้างภาพยนตร์ “ไททานิก” ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดในโลกซึ่งคว้ารางวัลมาจากเกือบทุกเวที ก่อนที่เจ้าตัวจะเข้าร่วมเป็นเจ้าของบริษัท Triton Submarines ซึ่งเป็นธุรกิจประกอบเรือดำน้ำสำหรับการวิจัยและการท่องเที่ยว   ผู้กำกับชื่อดังรายนี้ยังเป็นสมาชิกชุมชนอุตสาหกรรมผู้ผลิตเรือดำน้ำเพื่อการวิจัยและการสำรวจที่มีชื่อว่า Manned Underwater Vehicle (MUV) และเป็นหนึ่งในหลาย ๆ คนในอุตสาหกรรมนี้ที่รู้สึกข้องใจและไม่แน่ใจเกี่ยวกับคุณภาพความปลอดภัยของลำเรือที่ผลิตโดยบริษัทโอเชียนเกต (OceanGate Inc) เจ้าของเรือดำน้ำที่เพิ่งระเบิดไป และใช้วัสุดคาร์บอนไฟเบอร์และไททาเนียมเพื่อสร้างตัวลำเรือ คาเมรอนระบุระหว่างการให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า ตนคิดว่า การใช้วัสดุที่ว่าในการประกอบลำตัวเรือดำนั้น “เป็นความคิดที่น่ากลัว” และคิดว่า ตัวเองน่าจะออกมาพูดเรื่องนี้ แต่ก็คิดเอาเองว่า มีคนที่ฉลาดกว่าตนเพราะตัวเขาไม่เคยทดสอบเทคโนโลยีที่ว่านี้ เพียงแต่รู้สึกว่า “แค่ฟังก็รู้สึกแย่แล้ว” ขณะที่ยังไม่มีการสรุปต้นเหตุของการระเบิดจากภายในลำเรือของเรือดำน้ำไททัน คาเมรอนสันนิษฐานว่า ผู้ที่เฝ้าดูและมีความคิดวิพากษ์วิจารณ์บริษัท OceanGate Inc นั้นคิดถูกตั้งแต่เมื่อออกมาเตือนว่า ลำตัวเรือที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์และไททาเนียมนั้นอาจทำให้เกิดการแยกตัวเป็นชั้น ๆ ของตัววัสดุ (delamination) และการซึมของน้ำในระดับเล็กจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า (microscopic water ingress) ที่ประกอบกันแล้วทำให้ตัวลำเรือเสื่อมจนหมดสภาพเมื่อเวลาผ่านไประยะเวลาหนึ่ง ผู้เชี่ยวชาญรายอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมนี้รวมทั้ง พนักงานของบริษัทที่แอบออกมาเปิดเผยข้อมูลหยิบยกประเด็นนี้ออกมาเตือนตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 2018 พร้อม ๆ กับวิจารณ์บริษัท OceanGate Inc ที่เลือกไม่ขอจดทะเบียนรับรองเรือและใช้เรือดำน้ำนี้เป็นอุปกรณ์ทดลองมาโดยตลอด รอยเตอร์รายงานว่า บริษัทดังกล่าวยังไม่ได้ตอบกลับคำถามของผู้สื่อข่าวว่า ทำไมถึงตัดสินใจไม่ยื่นเรื่องขอใบรับรองจากหน่วยงานบุคคลที่ 3 ในอุตสาหกรรมนี้ เช่น American Bureau of Shipping ของสหรัฐฯ หรือบริษัท DNV ของยุโรป หน่วยดูเเลความปลอดภัยตามชายฝั่งสหรัฐฯ (U.S. Coast Guard) เปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า เรือดำน้ำไททันน่าจะระเบิดจากภายในตัวเรือ ระหว่างดำลงไปยังก้นมหาสมุทรนอร์ธแอตแลนติก เพื่อชมซากของเรือไททานิก แต่กระบวนการสอบสวนยังต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะได้ข้อสรุป   ขณะเดียวกัน กองทัพเรือสหรัฐฯ เปิดเผยกับสื่อ The Wall Street Journal ว่า ระบบลับเพื่อตรวจจับเสียงสะท้อนของกองทัพสามารถบันทึกสิ่งที่เป็น “ความผิดปกติซึ่งตรงกับการระเบิดจากภายในหรือการระเบิดในระยะที่อยู่ใกล้ ๆ กับจุดที่เรือดำน้ำไททันขาดการติดต่อไป” เจมส์ คาเมรอน บอกกับรอยเตอร์ว่า แหล่งข่าวของเขารายงานข้อมูลคล้าย ๆ กันนี้ และตัวเขาก็รู้ดีว่า ตัวเรือดำน้ำหายไปตั้งแต่การเริ่มต้นการเดินทางเป็นเวลา 4 วัน ทำให้สงสัยว่า เหตุระเบิดจากภายในลำเรือน่าจะเกิดขึ้นในช่วงที่เรือแม่ที่ผิวน้ำขาดการติดต่อกับเรือดำน้ำนี้หลังติดตามการดำไปได้ 1 ชั่วโมง 45 นาที คาเมรอนกล่าวว่า “เราได้รับการยืนยันว่า ภายในเวลา 1 ชั่วโมงว่า มีเสียงระเบิดดังขึ้นในเวลาเดียวกับที่การติดต่อสื่อสารจากเรือดำน้ำหายไป เสียงระเบิดดังนั้นได้ยินผ่านอุปกรณ์ฟังเสียงสิ่งมีชีวิตในทะเล (hydrophone) แล้วช่องรับส่งสัญญาณก็หายไป การสื่อสารก็หลุดไป ผมรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น เรือดำน้ำระเบิดจากภายในไปแล้ว” ผู้กำกับชื่อดังรายนี้ยังกล่าวด้วยว่า โศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นกับเรือไททานิกและเรือดำน้ำไททันนั้นอุบัติขึ้นหลับมีสัญญาณคำเตือนออกมาแต่ไม่มีใครยอมฟัง อย่างในกรณีของเรือไททานิกนั้น กัปตันเรือสั่งเดินหน้าทำความเร็วข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกในคืนเดือนมืด แม้จะมีผู้เตือนเกี่ยวกับภูเขาน้ำแข็งแล้วก็ตาม เขากล่าวทิ้งท้ายว่า “แล้วเราก็ต้องมาอยู่ที่จุดนี้อีกครั้ง ... และก็เป็นจุดเดิม ที่ตอนนี้ ก็มีซากเรือจมเคียงข้างกันอยู่ด้วยเหตุผลเหมือน ๆ กัน”   ที่มา: รอยเตอร์ - READ MORE
By thai@voanews.com (Reuters)
Sat, 24 Jun 2023 03:49:41 +0700
 
PREVIOUS NEXT
Tagged:
ADD COMMENT
Topic
Name
1+6 =