“สมาชโนโก” (Smachnogo) คือร้านอาหารยูเครนที่ชาวญี่ปุ่นรายหนึ่งเปิดให้บริการในกรุงโตเกียว ด้วยจุดประสงค์ที่จะมอบโอกาสการทำงานให้แก่ชาวยูเครนที่ต้องอพยพมาอาศัยในญี่ปุ่น ภายหลังการรุกรานของรัสเซีย
และแม้กรุงโตเกียวจะเนื่องแน่นไปด้วยร้านอาหารจากนานาชาติ แต่ก็ไม่เคยมีการเสิร์ฟอาหารสัญชาติยูเครน จนกระทั่งร้าน ‘สมาชโนโก’ เปิดตัวขึ้นในปี 2022 โดยชื่อร้านนี้เป็นภาษายูเครนและมีความหมายว่า “ทานให้อร่อย” ขณะที่ เมนูของทางร้านก็เป็นอาหารยูเครนที่ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นเข้าไปด้วย
นาตาเลีย กลิกาโล พนักงานชาวยูเครนที่ลี้ภัยมาพร้อมลูกสาว และได้มาเป็นพนักงานร้านสมาชโนโก บอกว่า “ที่ยูเครน จานนี้ชื่อว่าโฮลูเบทส์ (holubets) แต่ที่นี่ มีการใช้ชื่อญี่ปุ่นว่า เรริคาบิทสึ (rerikabitsu) หรือกะหล่ำปลีม้วน ที่ปรุงมาจากเนื้อบดผสมข้าวและราดซอสที่ทำจากมะเขือเทศไว้ด้านบน”
อาหารจานนี้เป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมของร้าน ขณะที่ อีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความชื่นชอบคือ อาหารชุดกลางวันสไตล์ยูเครนและญี่ปุ่น ในจานประกอบไปด้วย วารานากิ (vareniki) ซึ่งอาหารที่มีลักษณะคล้ายกับเกี๊ยวและภายในมีไส้ทำจากมันฝรั่งและเห็ด และไก่เคียฟหรือไก่ทอดยัดไส้ ทั้งหมดนี้เสิร์ฟมาพร้อมกับซุป ‘บอร์ชต์’ (borscht) ที่เป็นซุปพื้นเมืองของยุโรปตะวันออกและเอเชียเหนือ
ผู้ที่ตัดสินใจลองเปิดโลกทัศน์ชาวญี่ปุ่นเกี่ยวกับวัฒนธรรมอาหารยูเครนก็คือ ทากาเนะ เอโซเอะ นักแสดง ศิลปินและดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่น
เอโซเอะ เปิดร้านสมาชโนโกเมื่อเดือนกันยายนปี 2022 และเธอก็ยอมรับว่า ก่อนหน้าการรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย เธอไม่รู้จักอาหารยูเครนเลยแม้แต่น้อย แต่ได้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร และตัดสินใจที่จะเปิดร้านดังกล่าวในที่สุด
สำหรับคนญี่ปุ่น อาหารยูเครนถือว่า เป็นของแปลกใหม่จริง ๆ
โนบุ ลูกค้าชาวญี่ปุ่นของร้านนี้ บอกว่า ตนไม่เคยชิมอาหารยูเครน และก่อนเกิดสงครามขึ้น ตัวเขาเข้าใจว่าคงคล้ายอาหารรัสเซีย แต่ร้านสมาชโนโก คือ ที่ ๆ ทำให้เขาได้รู้จักอาหารยูเครนซึ่งเขาพบว่าเอร็ดอร่อยไม่น้อยเลยทีเดียว
นอกจากการนำเสนอวัฒนธรรมอาหารยูเครนแล้ว เอโซเอะ ผู้เป็นเจ้าของร้าน เผยว่า จุดประสงค์หลักของร้านแห่งนี้ คือการจ้างงานผู้อพยพชาวยูเครน
อิรินา ซิดรัน ชาวยูเครนที่ลี้ภัยจากเมืองดนิโปรมายังประเทศญี่ปุ่น ด้วยความช่วยเหลือจากลูกสาวของเธอ เล่าว่า คนญี่ปุ่นให้การต้อนรับเธออย่างอบอุ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่คาดคิดมาก่อน และเธอก็ยังได้ทำงานที่ร้านนี้ เพราะเอโซเอะให้โอกาสเธอ แม้ว่าเธอนั้นจะอายุมากแล้ว
สำหรับตัวของเอโซเอะ ผู้ก่อตั้งร้านนี้ เธอกล่าวว่า การที่พนักงานรู้สึกถึงความเป็นครอบครัว คือเป้าหมายหลักของเธอ และกำไรไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ พร้อมเปิดเผยว่า เมื่อมองไปในอนาคต เธอวางแผนที่จะยุติการทำร้านสมาชโนโก หากสงครามที่เกิดจากการรุกรานของรัสเซียนี้สิ้นสุดลง
ที่มา: วีโอเอ
- READ MORE
By thai@voanews.com (VOA)
Tue, 18 Jul 2023 04:00:32 +0700