ท่ามกลาง เปลวแดด
แผดเผา ดั่งไฟ
กลาง ผืนดิน นาไร่
ขอบฟ้า กว้างไกล สุดตา
ใครหนอ สู้ทน ทำงาน กลางนา
ไล่ควาย ด้วยดุ่ม กุมไถ ฟันฝ่า
คราดนา ล้า เมื่อย ระบม
รุ่งจน จวบค่ำ
ตรากตรำ เหงื่อนอง
แปลง ผืนดิน งามผ่อง
เป็นทุ่ง รวงทอง น่าชม
ยามหนาว คงยืน ฝืนสู้ แรงลม
เก็บเกี่ยว เกี่ยวข้าว
มัด ฟ่อนกลม
ระดม แรงนวด สุดใจ
จากแรง เป็นรวง
เหลืองงาม จนขาว ผ่อง
เกิดจากทุ่ง รวง ทอง
เกิดจากสอง มือใคร
รสข้าว หอมกรุ่น
หอมเอย ละมุนละไม
หอมเอย หอม ในน้ำ ใจ
ของหมู่ ชาว นา
หยาดเหงื่อ รินหยด
รดลง พื้นดิน
จน ผิวเกรียมโชยกลิ่น
ทำกิน อยู่กลาง ท้อง นา
บ่ท้อ บ่ถอย สู้ทน เรื่อยมา
พอเพียงวันหนึ่ง ชีวิต ชาวนา
ลืมตา และหาย ใจ
จากแรง เป็นรวง
เหลืองงาม จนขาว ผ่อง
เกิดจากทุ่ง รวง ทอง
เกิดจากสอง มือใคร
รสข้าว หอมกรุ่น
หอมเอย ละมุนละไม
หอมเอย หอม ในน้ำ ใจ
ของหมู่ ชาว นา
หยาดเหงื่อ รินหยด
รดลง พื้นดิน
จน ผิวเกรียมโชยกลิ่น
ทำกิน อยู่กลาง ท้อง นา
บ่ท้อ บ่ถอย สู้ทน เรื่อยมา
พอเพียงวันหนึ่ง ชีวิต ชาวนา
ลืมตา และหาย ใจ...[start]../song/0/0497.MID[stop]