DekGenius.com
 

คอร์ดกีต้าร์ หน้าที่ 1   คอร์ดกีต้าร์ หน้าที่ 2   ความรู้ทางดนตรีและเทคนิค  
           
 
   
ค้นหาคอร์ดเพลง
 
     
การจับปิคกีต้าร์ การจับคอร์ดกีต้าร คอร์ดพื้นฐาน การจับคอร์ดทาบ (Bar Chord)  
         
การเกากีต้าร์ การอ่านแทปเบื้องต้น การไล่โน้ตทั้งคอกีต้าร์ ตัวเลขแสดงจังหวะ และ ห้อง  
         
     

การจับปิคกีต้าร์

      ปิคกีต้าร์นั้นมีหลายแบบหลายรูปทรง แต่ที่นิยมใช้กันทั่ว ๆ ไปก็คือ ปิคแบน (flat pick) ที่เห็นกันอยู่ทั่วไปก็จะมีอยู่ 2 ทรงคือ รูป 3 เหลี่ยม แล้วก็ รูปหยดน้ำ มีให้เลือกตามขนาดความหนาของปิค ตั้งแต่ บาง , ปานกลาง และ หนา ส่วนจะเลือกใช้ขนาดไหน ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ในการเล่นตีคอร์ดนั้นแนะนำให้ใช้ปิคแบบบาง เพราะจะเกิดแรงต้านกับสายน้อยเล่นแล้วจะรู้สึกพริ้วไหวไม่สะดุด ส่วนการเล่น Solo นั้นใช้ได้ทุกขนาดขึ้นอยู่กับความชอบความถนัดของแต่ละคน

      การจับปิคนั้นให้วางปิคลงด้านบนสันของปลายนิ้วชี้ นิ้วชี้อยู่ในลักษณะงอเข้าหาปลายนิ้วโป้ง แล้วใช้นิ้วโป้งกดทับตัวปิค การจับไม่ได้จับจนแน่นมากให้จับพอกระชับไม่ให้หลุด ปลายปิคเลยออกมาจากนิ้วประมาณ 3-4 มิล ไม่สั้นหรือยาวออกมามากจนเกินไป ปิคต้องอยู่ในลักษณะตั้งฉากกับสายหรือเกือบจะตั้งฉากกับสาย และเอียงตัวปิคประมาณ 45 องศา เพื่อลดแรงประทะกับสายในขณะดีด ทำให้ดีดได้คล่องและไม่รู้สึกติดขัด

Description: ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การจับปิคกีต้าร์ Description: ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การจับปิคกีต้าร์

 

การจับคอร์ดกีต้าร์

ในเว็บไซต์คอร์ดกีต้าร์ เราได้แสดงภาพการจับคอร์ดกีต้าร์ในตำแหน่งของนิ้วมือของมือซ้ายของคุณ และวิธีการที่กดลงบนสายเพื่อให้เสียงคอร์ดได้อย่างถูกต้องนั้น เราได้ใส่เลขกำกับของนิ้วมือไปด้วย ซึ่งวิธีการจับคอร์ดกีต้าร์นั้นจะเป็นตัวอย่างดังต่อไปนี้ครับ

 

 

แผนภาพคอร์ดกีตาร์คือเปรียบเทียบกับคอร์ดของกีตาร์จริง ซึ่งจะเริ่มต้นจากคอของกีต้าร์

Description: http://2.bp.blogspot.com/-cQHuzos6Ds4/UvrnsYt-iEI/AAAAAAAAAfo/jookMviDzyM/s1600/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C_1.jpg

ตัวเลขในตำแหน่งนิ้วต่างๆ แสดงแทนจุดสีดำๆ สอดคล้องกับนิ้วมือในแผนภาพด้านล่าง:

Description: http://1.bp.blogspot.com/-_63z6_c0-RQ/Uvrn5EonnnI/AAAAAAAAAfw/A7fxDSb8vMI/s1600/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C_2.jpg

ตัวอักษรตัว x เล็กๆ ด้านบนของสายกีตาร์ซึ่งหมายถึงคุณไม่ต้องดีดสายนี้ ดังภาพข้างล่าง D7

Description: http://2.bp.blogspot.com/-GmORckH8egM/UvroJeby5AI/AAAAAAAAAf4/mvz7_Y-vLpo/s1600/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C_3.jpg

ตัวอย่างการจับคอร์ด ตัวเลขที่เห็นแทนนิ้วมือนั้นๆ Db

Description: http://1.bp.blogspot.com/-5Q8x9NSWLxM/UvroTeecIqI/AAAAAAAAAgA/-8JJuUWIJP8/s1600/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C_4.jpg

และเลข 3 หมายถึง ตำแหน่งบาร์ หรือช่องของกีตาร์

 

 

 

คอร์ดพื้นฐาน

การหัดจับคอร์ดกีต้าร์ควรจะหัดจับคอร์ที่ง่ายๆประมาณ2-3คอร์ดก่อนพอเริ่มจับได้2-3คอร์ดแล้วค่อยมาหัดจับคอร์ดอื่นๆต่อไป ลองหัดจับคอร์ดตามด้านล่างนี้ป็นคอร์ดที่จับได้ไม่ยากมากเหมาะสำหรับคนที่เริ่มต้นเล่น

Description: Cuitar-minor-chords-2

 

 

Description: ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ full chord guitar

 

 

 

 

การจับคอร์ดทาบ (Bar Chord)

การจับคอร์ดทาบนั้นสำหรับคนที่หัดเล่นใหม่ๆแล้ว จะรู้สึกว่าจับยากมากทั้งเจ็บนิ้วไม่มีแรงกด เสียงบอด แต่การจับคอร์ดทาบนั้นมีเทคนิคอยู่นิดเดียว คือ การหักข้อมือลงด้านล่าง แล้วใช้นิ้วโป้งประคองตรงกลางหลังคอกีต้าร์ไว้ แทนการใช้นิ้วโป้งกำคอกีต้าร์แบบการจับคอร์ดธรรมดา แบบนี้จะเป็นการจับที่ถูกวิธี และช่วยให้มีแรงกดสายมากขึ้นทำให้เสียงไม่บอด ส่วนนิ้วที่ใช้กดสายก็พยายามให้ปลายนิ้วตั้งฉากกับสายมากที่สุดไม่ให้ไปโดนสายอื่นเพราะจะทำให้เสียงบอดได้

ลักษณะพิเศษของ คอร์ดทาบ หรือ (Bar Chord)

ลักษณะพิเศษของคอร์ดทาบ ก็คือ คุณสามารถ เลื่อนคอร์ดในลักษณะการจับที่ยังเหมือนเดิม ถอยหลังเข้าหาตัว หรือ เลื่อนไปด้านหน้า แล้วคอร์ดจะเปลี่ยนไปเป็นอีกคอร์ดหนึ่งโดยที่รูปแบบการจับยังเหมือนเดิม โดยมีหลักอยู่ว่า ถ้าเลื่อนถอยเข้าหาตัว 1 ช่อง (เสียงสูงขึ้น) คอร์ดเดิมที่เล่นอยู่ก็จะติด( # )เช่นคุณจับคอร์ด F แล้วเลื่อนเข้าหาตัว 1 ช่อง คอร์ดก็จะเปลื่ยนเป็น F# ถ้า 2 ช่องคอร์ดก็จะเปลื่ยนเป็นคอร์ด G ในทางตรงกันข้าม ถ้าเลื่อนไปด้านหน้าออกห่างตัว 1 ช่อง (เสียงต่ำลง) คอร์ดเดิมที่เล่นอยู่ก็จะติด( b ) เช่นคุณจับคอร์ด B แล้วเลื่อนออกห่างตัว 1 ช่อง คอร์ดก็จะเปลื่ยนเป็น Bb ถ้าเลื่อนไป 2 ช่องคอร์ดก็จะเปลื่ยนเป็นคอร์ด A สายเปิด คือไม่ต้องใช้นิ้วชี้ทาบ เพราะตำแหน่งที่ต้องทาบเป็นสะพานรองสาย (Nut) พอดี

 ส่วนการเลื่อนคอร์ดว่าเลื่อนกี่ช่องแล้วจะเปลี่ยนเป็นคอร์ดอะไรจะใช้หลักของ Major Scale คือ คอร์ด E กับ F และคอร์ด B กับ C ห่างกัน 1 ช่อง (ครึ่งเสียง) ส่วนคอร์ดอื่น A กับ B , D กับ E , F กับ G ห่างกัน 2 ช่อง (หนึ่งเสียงเต็ม)

Description: ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การจับคอร์ดทาบ F        

 

 

 

 

การเกากีต้าร์

การดีดด้วยนิ้ว หรือ การเกาสาย (Finger Style หรือบางทีเรียก Finger Picking) เรามักเรียกการเล่นแบบนี้ว่าการเกากีตาร์ซึ่งปกติเราจะใช้นิ้วสำหรับเกาสายทั้งหมด 4 นิ้ว คือ โป้ง , ชี้ , กลาง , นาง ส่วนนิ้วก้อยบางครั้งก็นำมาใช้ด้วยเหมือนกัน แต่ไม่นิยมนัก

การเกากีตาร์ โดยส่วนที่สัมผัสกันระหว่างปลายนิ้ว กับ สายกีตาร์ในตอนดีดนั้น ถ้าเป็นนิ้วโป้ง จะใช้ด้านข้างด้านที่อยู่นอกตัวมือ ส่วนนิ้ว ชี้ , กลาง , นาง จะอยู่ปลายนิ้วค่อนไปทางนิ้วโป้ง อธิบายอย่างนี้อาจจะเข้าใจยาก ดูรูปประกอบจะดีกว่า จากรูปส่วนที่เป็นสามเหลี่ยมเล็กๆคือส่วนที่นิ้วสัมผัสกับสายกีตาร์

Description: สอนกีตาร์เบื้องต้น - ตอนที่ 9 การดีดกีตาร์โดยนิ้ว หรือการเกา (Finger Style)-1

การเล่นกีตาร์สไตล์นี้ จริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแต่ต้องการการฝึกทักษะของนิ้วให้คุ้นเคยกับงานดีดสาย และสามารถวางนิ้วลงตำแหน่งที่ควรอยู่ได้อย่างอัตโนมัติเท่านั้นเอง ซึ่งหากจะแบ่งรูปแบบในการเกาสายที่เป็นที่นิยมเล่นกันมากที่สุด จะมีอยู่ 3 รูปแบบ แบ่งตามจำนวนนิ้วที่ใช้เล่นเสียงสูง ดังนี้

การเกากีตาร์แบบ 3 นิ้ว

รูปแบบนี้จะมีการแบ่งให้นิ้วโป้งใช้ดีดสายที่ให้เสียงเบส นั่นคือสายที่ 4,5,6 ส่วนนิ้วที่เหลือจะดีดสายที่ให้เสียงสูง คือนิ้วชี้จะดีดประจำที่สายที่ 3 , นิ้วกลางจะดีดประจำที่สายที่ 2 และนิ้วนางจะดีดประจำที่สายที่ 1

ปกติการเกาสายรูปแบบนี้ จะเหมาะมากในกรณีการเล่นแบบกระจายเสียงคอร์ด(Arpeggio) ที่ต้องการเสียงกังวาลประสานกัน (Ring) ซึ่งมักมีแพลตเทิร์นในการดีดที่ซ้ำไปซ้ำมา จึงนิยมใช้เล่นเป็นดนตรีเพื่อประกอบการร้อง

Description: สอนกีตาร์เบื้องต้น - ตอนที่ 9 การดีดกีตาร์โดยนิ้ว หรือการเกา (Finger Style)-2

การเกากีตาร์แบบ 2 นิ้ว

รูปแบบนี้จะมีการแบ่งให้นิ้วโป้งใช้ดีดสายที่ให้เสียงเบส นั่นคือสายที่ 4,5,6 ส่วนนิ้วที่เหลือจะใช้เพียงนิ้วชี้ และ นิ้วกลาง ที่จะสลับกันดีด (คล้ายการเคลื่อนไหวของขาเวลาวิ่ง) ประจำสาย 1,2,3 อย่างไรก็ตามบางครั้งก็มีการใช้นิ้วโป้งไปเล่นสายที่ 1,2,3 ด้วยเช่นกัน หรือบางทีนิ้วชี้และนิ้วกลาง ก็ไปเล่นสาย 4,5,6 ได้เช่นกัน โดยให้พิจารณาตามความเหมาะสมของแต่ละเพลง

ปกติการเกาสายรูปแบบนี้ จะเหมาะมากในกรณีการเล่นเพลงบรรเลงแบบเดี่ยวกีตาร์ เพราะนิ้วชี้และนิ้วกลาง เมื่อดีดสลับกัน จะมีความคล่องตัว และสามารถดีดได้ถี่และรวดเร็ว

 

Description: สอนกีตาร์เบื้องต้น - ตอนที่ 9 การดีดกีตาร์โดยนิ้ว หรือการเกา (Finger Style)-3

 

การเกากีตาร์แบบ 1 นิ้ว

รูปแบบนี้จะมีการแบ่งให้นิ้วโป้งใช้ดีดสายที่ให้เสียงเบส นั่นคือสายที่ 4,5,6 ส่วนนิ้วที่จะใช้เล่นสายเส้นที่เป็นเสียงสูงทั้งหมดคือสายที่ 1,2,3 จะใช้นิ้วชี้เพียงนิ้วเดียว

ซึ่งวิธีนี้อาจดูง่ายสำหรับผู้เริ่มหัด แต่กรณีที่เล่นเพลงที่ซับซ้อน จะค่อนข้างสับสน และหลงสายได้ง่าย และเมื่อยนิ้วง่ายด้วย จึงไม่ค่อยนิยมนำมาเล่นในแบบบรรเลงเดี่ยวกีตาร์ หรือแบบกระจายคอร์ดเท่าใดนัก อย่างไรก็ตาม การเล่นแบบนิ้วเดียวกลับมีความคล่องตัว ในกรณีใช้เล่นคอร์ดในแพล็ตเทริ์นที่ใช้นิ้วโป้งเล่นเดินเบส สลับกับการใช้นิ้วชี้ตลัดขึ้นเพื่อเล่นสายเส้นล่างๆทั้ง 3 เส้นพร้อมกัน

Description: สอนกีตาร์เบื้องต้น - ตอนที่ 9 การดีดกีตาร์โดยนิ้ว หรือการเกา (Finger Style)-4

อย่างไรก็ตาม รูปแบบการเกาทั้ง 3 รูปแบบที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนั้น เราควรจะฝึกฝนให้สามารถเล่นได้ทั้ง 3 รูปแบบ อย่างชำนาญ เพราะในเพลงบางเพลง ก็มีความซับซ้อนของทำนอง จนอาจจำเป็นที่จะต้องใช้ทั้ง 3 รูปแบบผสมผสานกัน

จุดเด่นของการดีดโดยใช้นิ้ว

1. สามารถเล่นเสียงประสาน จากสายกีตาร์ตั้งแต่ 2-4 เส้นพร้อมกัน โดยที่สายแต่ละเส้นไม่จำเป็นต้องอยู่ติดกัน

2. มีความคล่องตัวในการดีดแบบกระจายคอร์ด ที่มีแพล็ตเทริ้นในการดีดซ้ำๆกันตลอดทั้งเพลง

3. การดีดคอร์ดด้วยวิธีการใช้นิ้วทั้ง 4 ดีดพร้อมกัน ให้ความรู้สึกคลาสสิค คล้ายเสียงเปียโน

จุดด้อยของการดีดโดยใช้นิ้ว

1. เสียงจากการดีดจะไม่ใส,ชัดเจน เหมือนกับการใช้ปิ๊ค

 

2. สำหรับการดีดทำนองที่เร็ว เช่น การเล่นลูกนิ้ว (Lick) แบบต่างๆ จะไม่คล่องเท่ากับการดีดด้วยใช้ปิ๊ค

จดไว้ : สัญลักษณ์ทางโน๊ตกีตาร์ เพื่อบอกว่าให้ใช้นิ้วใดในการเกาสาย มีดังนี้

T = นิ้วโป้ง
I = นิ้วชี้
M = นิ้วกลาง
A = นิ้วนาง
O = นิ้วก้อย

Description: สอนกีตาร์เบื้องต้น - ตอนที่ 9 การดีดกีตาร์โดยนิ้ว หรือการเกา (Finger Style)-5

การดีดกีตาร์แนว Finger Style บางครั้ง หากต้องการให้เสียงที่ได้มีความคมชัด,ใส,บาง ก็สามารถสวมปิ๊คนิ้ว (Finger Pick) เข้าไปกับนิ้วที่ใช้ดีดได้ แต่อย่างไรก็ตามการสวมปิ้คนิ้ว อาจทำให้ความคล่องตัวในการเกาสายลดน้อยลง

 

การดีดโดยใช้ปิ๊คผสมนิ้ว

จริงๆแล้ววิธีนี้ อาจไม่ได้ถือว่าเป็นวิธีหลักในการใช้เล่นเพลง เพียงแต่เป็นการเล่นแนวพลิกแพลงเพื่อใช้เล่นกับบางเพลงที่ต้องการเสียงที่เกิดจากจุดเด่นของการดีดสายโดยใช้ปิ๊ค และการดีดโดยใช้นิ้วหรือการเกาสายไว้ด้วยกัน ซึ่งรูปแบบการเล่นที่นิยมมีอยู่สองรูปแบบคือ

1. ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับปิ๊คดีดเหมือนปกติ แต่ช่วงที่จำเป็นต้องเกาสาย จะใช้นิ้วกลาง, นาง, ก้อย ในการเล่น

 

2. ใส่ปิ๊คนิ้วให้กับนิ้วโป้ง ดังนั้นเราสามารถจีบนิ้วชี้กับนิ้วโป้ง ได้เหมือนกับตอนจับปิ๊คตามปกติ ให้ใช้ปิ้คนิ้วที่อยู่ที่นิ้วโป้งในการดีดสาย และในช่วงที่จำเป็นต้องเล่นแบบเกาสาย ก็สามารถปล่อยการจีบนิ้ว แล้วใช้งานนิ้วชี้, กลาง ,นาง ในการเกาสายเหมือนการเกาแบบปกติ

Description: สอนกีตาร์เบื้องต้น - ตอนที่ 9 การดีดกีตาร์โดยนิ้ว หรือการเกา (Finger Style)-7

สำหรับกีตาร์โปร่งนั้น ตำแหน่งการวางมือขวา หรือตำแหน่งในการดีด จะให้เสียงที่ต่างกันดังนี้

- ตำแหน่งเหนือโพรงเสียง จะให้เสียงดัง, กังวาน

- ตำแหน่งที่อยู่ใกล้บริดจ์ จะให้เสียงบางใส

 

 

การอ่านแทปเบื้องต้น

สำหรับคนที่สนใจอยากเล่น แต่ยังอ่านแทปไม่เป็น ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะจริงๆแล้ว "แทป" มันก็ออกแบบมาให้มือกีต้าร์ที่ขี้เกียจอ่านโน๊ตอย่างเราๆอยู่แล้ว ก่อนอื่นเราลองมาเปรียบเทียบการอ่านแทป กับการอ่านโน๊ตกันก่อนครับ

แทปเพลง VS โน๊ตเพลง

การอ่านแทปยังข้อดีเหนือการอ่านโน๊ตอยู่อย่างก็คือ แทปจะบอกเราชัดเจนเลยว่า กดตรงนี้ๆนะ แต่ถ้าเป็นโน๊ต เราจะบอกไม่ได้โดยตรงว่าควรกดตรงไหน เพราะโน๊ตตัวหนึ่งสามารถกดได้หลายที่ในคอกีต้าร์ เวลาอ่านโน๊ตก็ต้องเดาๆเอาว่า น่าจะกดตรงนี้นะ

 

อย่างไรก็ตามการอ่านแทปก็จะมีข้อเสียอยู่ นั่นคือ แทปส่วนใหญ่จะไม่มีตัวบอกจังหวะกำหนดไว้ เช่น ตัวขาว ตัวดำ ตัวขเบ็ด และการอ่านโน๊ตเป็นจะทำให้เรารู้ทฤษฎีในเบื้องต้น และสามารถใช้ประยุกต์กับการเล่นให้หลากหลายขึ้นได้

ฉะนั้นถ้าถามผู้เขียนว่าการอ่านแทปกับการอ่านโน๊ตอันไหนดีกว่ากัน ก็ตอบได้ว่า ทั้งคู่ครับ แต่ขั้นต้น การอ่านแทปอาจจะเหมาะกว่า เพราะได้ผลเร็ว แต่สำหรับใครที่ต้องการพัฒนาฝีมือตัวเองให้เก่งขึ้น ก็แนะนำว่าควรจะอ่านโน๊ตเป็นด้วยครับ

การอ่านแทป

"แทป" จริงๆแล้วก็คือภาพของคอกีต้าร์ที่หงายหน้าขึ้นมาเท่านั้นเองครับ โดยบรรดทัดบนสุดคือ สาย 1 ของกีต้าร์ ไล่เรื่อยลงมาจนบรรทัดที่ 6 (สาย 6), สาย 1 นั้นคือสายที่มีเสียงสูงที่สุด, ส่วนตัวเลขที่อยู่ในแต่ละบรรทัดนั้นคือ เฟรตกีต้าร์ (Fret board) ซึ่งก็คือช่องที่อยู่ตามคอนั่นแหละครับ ดูรูปประกอบด่านล่าง คิดว่าคงจะเห็นภาพได้ชัดเจน

Description: http://1.bp.blogspot.com/-SX7OOw4Ww8w/T3GySDvXgxI/AAAAAAAAARg/hj_F0S5RJyU/s640/tab+diagram.jpg

สิ่งที่คุณจะพบอีกอย่างในการอ่าน Tab ก็คือ ตัวเลขมากมายที่ปรากฏอยู่บนสายแต่ละเส้น ซึ่งตัวเลขแต่ละตัวจะแทนการใช้นิ้วมือซ้ายกดสายกีตาร์ที่ช่องนั้นๆ บนคอกีตาร์ เช่น  เลข 0 = ไม่มีการกด , เลข 1 = กดช่องที่ 1 , เลข 2 = กดช่องที่ 2 เป็นต้น

 

Description: http://3.bp.blogspot.com/-W15OT1EAOkM/U5NyZP032FI/AAAAAAAAAcc/sXdO7IT7GlM/s1600/Xtab2.jpg

 การอ่านแท็บกีต้าร์    สายกีต้าร์จะถูกเขียนแทนด้วยเส้น 6 เส้น เรียงเป็นลักษณะของสายกีต้าร์บนฟิงเกอร์บอร์ด    และเส้นบนสุดคือสาย 1 ของกีต้าร์ไล่ลงมาเป็นสาย 2 สาย 3 สาย 4 สาย 5 สาย 6 และมีตัวเลขที่อยู่บนแท็บนั้นหมายถึงตำแหน่งช่องที่ต้องกดบนฟิงเกอร์บอร์ด ของสายนั้นๆ ส่วนเลข 0 หมายถึง การดีดสายเปล่า  และถ้าตัวเลขที่อยู่บนเส้นอยู่ในตำแหน่งเดียวกันในแนวตั้งดังรูปให้ดีดพร้อมกัน ส่วนใหญ่จะเป็นการตีคอร์ด หรือเล่นดีดประสาน   และถ้าตัวเลขเรียงกันไปทางขวามือ ให้ดีดทีละครั้งตามลำดับ

 

แบบฝึกเกาที่ 1 ดีดตามจังหวะตก  การนับจังหวะเหมือนเดิมนะครับ

Description: http://1.bp.blogspot.com/-Hf7Q38w0L8k/U5SuUFypZsI/AAAAAAAAAcs/v_LTETpZFvA/s1600/P-101s.jpg

 เริ่มจากช้าๆก่อนนะครับให้นิ้วคุ้นกับตำแหน่งการดีดแล้วค่อยเพิ่มความเร็ว  เมื่อฝึกคล่องแล้วเราอาจจะเพิ่มความเร็วในการเล่น(ดีด) โดยการเล่นในจังหวะยก แต่ความเร็วในการนับเท่าเดิมDescription: http://2.bp.blogspot.com/-03b4_OE94WQ/U5VEhufH1VI/AAAAAAAAAc8/oIHkgX_vZGk/s1600/P-102s.jpg

สัญลักษณ์เบื้องต้นที่ใช้ใน TAB


h   =    hammer on
p   =    pull off
b   =   bend string up  (ดันสายขึ้น)
r    =   release bend  (ดันสายค้างไว้ ดีดแล้วจึงผ่อนสายลง)
/   =  
slide up  (สไลด์ขึ้น)
\    =    slide down  (สไลด์ลง)
s   =    legato slide  (การสไลด์ไปยังโน๊ตตัวอื่นโดยไม่ต้องดีดซ้ำ)
v, ~   =    vibrato  (ทำเสียงสั่น)
tr   =   trill  (การรัวนิ้ว)
T   =    tap  (การเล่น Tabping)
x   =   on rhythm muted slash  (การให้จังหวะโดยทำเสียงบอด)

 

การไล่โน้ตทั้งคอกีต้าร์

พื้นฐานของโน็ตบนคอกีต้าร์ ความสำคัญอยู่ที่เสียง มาตรฐานของสายเปิดก่อน นั่นคือ เสียง ไล่จากสายที่ 1 ไปถึงสายที่ 6 จะต้องได้มาตรฐานเสียก่อน นั่นคือ  E B G D A E หากยังไม่ได้ตั้งสาย ก็อย่าเพิ่งไล่โน้ตครับ เพราะ มันเพี้ยนแน่ๆ ทีนี้การไล่โน้ต มันไล่ยังไง ไม่ยากครับ ให้เราจำง่ายๆ ก่อนว่า มันมีตัวโน้ต ที่ มีช่วงห่าง 2 แบบ

1.ช่วงห่างโน้ต  1 เสียงเต็ม   นั่นคือ นับจากตำแหน่งโน็ตอ้างอิงบนคอกีต้าร์ ไปอีก 2 ช่อง

2.ช่วงห่างโน้ต  1/2 เสียง นั่นคือ นับจากตำแหน่งโน้ตอ้างอิงบนคอกีต้าร์ ไปอีก 1 ช่อง

 ข้อควรจำ ถ้าเป็นช่วงห่างโน้ต แบบ 1 เสียงเต็ม หรือ 2 ช่อง แปลว่า ตอนนี้เรากำลังพูดถึง ช่องทั้งหมด 3 ช่อง เจ้าช่องที่ 2 จะเป็นเสียง สูงขึ้นของช่องแรก ที่เรียกว่า เสียง ชาร์ป # และเป็นเสียงที่ต่ำลงของช่อง 3 หรือ b แฟล็ต 

เรามาดูกันว่า ปกติจะไล่โน้ตกันอย่างไร C D E F G A B C  มีโน็ตติดกัน เพียง 2 คู่เท่านั้น ที่ห่างกัน 1/2 เสียง นั่นคือ        E F  หรือ มีกับฟา และ   BC หรือ ทีกับโด นอกนั้นห่างกัน เต็ม 1 เสียงหมดครับ   

ต่อไปเรามาดูว่า ตรง 3 ช่องแรกที่คอกีต้าร์นั้น มีโน้ตตัวใดประจำอยู่บ้าง ดังภาพนี้ครับ Description: http://1.bp.blogspot.com/-u3xr4rkfb-w/T18PgHgxo7I/AAAAAAAAAQ8/xNGCl8KWFBQ/s640/dd2.jpg

เราจะเห็นว่า มีการไล่สายคือ สายที่ 1 - 6 โดยมีโน้ตประจำสายโดยไม่ต้อง กด คือ ดีที่สายนั้นเฉยๆ ก็ได้โน้ตตัวนั้นเลย เช่น สายที่ 1 หรือสายล่างสุด เมื่อดีดเฉยๆ จะได้โน้ต ตัว มี ในทันที แต่ที่สาย 1 นี้เมื่อกดที่ช่องที่ 1 จะได้ เสียงโน้ต F หรือ ฟา  เมือกดช่องที่ 3 ของสายที่ 1 จะได้ เสียง G ซอล เป็นต้น

เมื่อเรามาดูที่สาย 4 และ 5 จะเห็นว่า มีกลุ่มตัวโน้ต EF และ BC ตามลำดับ ซึ่งสอดคล้องกับ สิ่งที่เรารู้มาแล้วว่า โน้ต 2 คู่นี้เสียงต่างกัน 1/2 เสียง นั่นเอง และจะเห็นว่ามันห่างกันเพียง 1 ช่องตรงกับที่เรารู้มาก่อนทุกประการ นี่คือแบบแผนที่แน่นอน ของดนตรีครับ ดังนั้น หากเราจำ การไล่ลำดับตัวโน้ต ในแบบแผนนี้ ไว้ คือ C D E F G A B C เราก็สามารถไล่โน้ตได้ทั่วคอกีต้าร์โดยไม่ต้องไปนั่งจำ ให้ลองไล่แล้วเขียนลงบนกระดาษเอง จะทำให้เราจำได้เอง และอาจจะแบ่งเป็นส่วนต่างๆ เพื่อทำให้การไล่ทำได้เร็วขึ้น

มาดูตัวอย่างการไล่โน้ต บนคอกีต้าร์ บนสายที่ 1 กัน

Description: http://2.bp.blogspot.com/-mmZ4WkbH_Uo/T18Raau2_tI/AAAAAAAAARE/s1CozFqr-uc/s640/dd8.jpg

 หมายเหตุ: การไล่โน้ต จะเห็นว่า สายที่ 1 และ สายที่ 6 มีตำแหน่งโน้ต เหมือนกัน คือ E F G ที่ต้นคอ ทำให้ตำแหน่งโน้ตอื่นๆ ที่ไล่จะเหมือนกันทุกประการ

 เริ่มจากไหนก็กลับไปดูแบบแผนการไล่โน้ต จากสายหนึ่ง มันเริ่มจากสายเปล่าโดนดีด ก็เป็นเสียง E หรือ มีก่อน จากนั้นกดช่องแรก จะได้เสียง F เรากลับไปดูที่ แบบแผน จะเห็นว่า หลังจาก F ก็เป็น G คือ จาก ฟา ก็มาเป็น ซอล ซึ่งมันเป็น ตัวโน้ตที่ห่างกัน 1 เสียงเต็ม ก็ไล่ไป 2 ช่อง ตรงตามภาพ จากนั้น จาก G เป็นอะไรครับ ก็ต้องเป็น A หรือ ลา ใช่ไหม ห่างกัน 1 เสียงเต็มก็นับไปอีก 2 ช่อง เห็นไหมครับ ตามภาพ ไม่ยากเลย จาก  A ก็เป็น B หรือ ที มันก็ห่างกัน 1 เสียงเต็ม ก็นับไปอีก 2 ช่อง ได้ ตำแหน่ง B ที่ช่อง 7 เรียบร้อย  เห็นไหมครับไม่ยากเลย

สายอื่นๆ ก็ไล่แบบเดียวกัน เพียงระวังเอาไว้ว่า หากเป็นคู่โน้ต EF กับ BC มันจะห่างกันเพียง 1/2 เสียง ก็นับห่างกันเพียง 1ช่อง ทำได้แบบนี้รับรองไล่ได้ทั้งคอครับ อยากรู้ตรงไหน ช่องไหน สายไหน โน้ตอะไรก็ใช้หลักการนี้ครับ

 

ตัวเลขแสดงจังหวะ และ ห้อง

วันนี้จะเริ่มแนะนำการเรียนโน้ตในเบื้องต้น แต่จะให้ ท่านดีดสายเปล่า ตัวโน้ต E ในสายที่ 1. และ 6. กันก่อน โดย ให้แบ่งจังหวะออกเป็น 2 แบบ

Description: http://4.bp.blogspot.com/-mkngyKPJh5U/T2AuHrTiYKI/AAAAAAAAARM/bFp5Yiiru2I/s640/pp.jpg

รูปแบบที่ 1ดูในภาพประกอบไปด้วยครับ จะเป็นการดีดลงอย่างเดียวครับ    ในแบบที่ 1 ให้ทำดังนี้  ท่านจะเห็นเลข 4 / 4 นั่นหมายถึง ใน 1 ห้อง มี 4 จังหวะ จากนั้นให้ดีดดังนี้  1 2 3 4 พร้อมนับดังๆ นะครับ หนึ่ง สอง สาม สี่ พยายามนับและดีดให้พร้อมกัน และควรตบเท้า ตามไปพร้อมๆ กันด้วย  จะเห็นว่า มี  4 ห้องก็ทำให้ครบ ช้าๆ โดยให้เน้น ที่เลข 1 ให้เสียงดังกว่าเพื่อน และดีดแรงกว่าเพื่อนด้วย จะทำให้ เราคุ้นเคยจังหวะได้ดีกว่าครับ

เคล็ดลับ

1.ได้มาจากอาจารย์ของผม การนับ 1234 นี้ จะแม่นมาก ต้องมี เมโทรนอม ครับ ตั้งความเร็วสัก 55 ตอนแรก พอได้ก็เลื่อนมา 60 แล้ว พยายามทำให้ได้ 80 จะทำให้เราเก่งขึ้น ต้องลงตรงกับเสียง ติ๊กๆๆๆ ในทุกจังหวะครับ

2.ใครไม่มี เมโทรนอม ให้ดูเข็มนาฬิกาก็ได้ครับ วินาทีละ 1 จังหวะ หรือ 2 วินาที 1 จังหวะ ก็ได้

 รูปแบบที่ 2 จะเห็นว่ามีเลข  3/4 แปลว่า มี 3จังหวะใน 1 ห้องครับ ก็ฝึกเหมือนกัน เพียง แต่ต้องปรับเมโทรนอม เป็น แบบ 3 จังหวะเท่านั้นเอง

ฝึกทั้งสองสาย ให้คล่อง ให้เวลากับบทเรียนนี้สัก 2-3 วันครับ วันละ 15-20 นาที พอแล้ว จากนั้นค่อยไปบทเรียนต่อไป เน้นแน่นๆ ครับ อย่ารีบ

 

 
No.
Title
Artist
Album
Lyrics+Guitar Chord
  1   คอร์ดกีต้าร์ 100 เหตุผล STER STER เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  2   คอร์ดกีต้าร์ 15 กุมภา อาร์มแชร์ [Armchair] Spring เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  3   คอร์ดกีต้าร์ 26/12/04 ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์ ซับน้ำตาอันดามัน เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  4   คอร์ดกีต้าร์ 36,000 Miles Cocktail 36,000 Miles เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  5   คอร์ดกีต้าร์ Acrophobia Penguinvilla [เจตมนต์ มละโยธา] เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  6   คอร์ดกีต้าร์ All That I Want C 21 Listen เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  7   คอร์ดกีต้าร์ Almost Here Brian McFadden Feat. Delta Goodrem เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  8   คอร์ดกีต้าร์ American Idiot Green Day American Idiot เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  9   คอร์ดกีต้าร์ Caught In The Middle A1 Caught In The Middle Pt.2 เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  10   คอร์ดกีต้าร์ Cinderella อมิตา-ทาทา ยัง [TATA YOUNG] I Believe เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  11   คอร์ดกีต้าร์ Dhoom Dhoom อมิตา-ทาทา ยัง [TATA YOUNG] เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  12   คอร์ดกีต้าร์ Dog A Cappella 7 อะ-แค็บ-เป-ล่า-เซ-เว่น เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  13   คอร์ดกีต้าร์ Easy Breezy Utada Hikaru Exodus เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  14   คอร์ดกีต้าร์ Fly Hilary Duff เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  15   คอร์ดกีต้าร์ Friend Club เพื่อนกัน..มันส์ซะ B-Mix & Girly Berry Friend Club เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  16   คอร์ดกีต้าร์ G-DAY(MATE). TAI-ฐากูรศิลป์ ไทยสวัสดิ์ เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  17   คอร์ดกีต้าร์ Girl You Take My Breath Away ลีโอ พุฒ Room 99/2 เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  18   คอร์ดกีต้าร์ Hero . Chad Kroeger feat. Josey Scott Spiderman Soundtrack เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  19   คอร์ดกีต้าร์ I SURRENDER Cube เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  20   คอร์ดกีต้าร์ I Believe . . . อมิตา-ทาทา ยัง [TATA YOUNG] I Believe เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  21   คอร์ดกีต้าร์ I Will Survive Gloria Gaynor เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  22   คอร์ดกีต้าร์ If Tomorrow Never Comes Ronan Keating Destination เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  23   คอร์ดกีต้าร์ Insatiable Darren Hayes Spin เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  24   คอร์ดกีต้าร์ Leave Jojo เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
  25   คอร์ดกีต้าร์ Live For Love United Luis Figo,Zinedine Zidane,Roberto Carlos etc. 2002 FIFA WORLD CUP เนื้อเพลง+คอร์ดกีต้าร์
     
Page : [X] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [>>]
 <<<กลับไปยังหน้าเริ่มต้น