Search
 
NEWS
 

คุยหนัง - ขนทัพแฟนเซอร์วิส ปิดฉาก 42 ปี สงครามแห่งจักรวาล ใน Star Wars: The Rise of Skywalker

 
 
  สิ้นสุดการรอคอยของปัจฉิมบทของสงครามแห่งจักรวาล ที่ครองใจผู้ชมตั้งแต่รุ่นปู่ยันรุ่นหลาน พอขึ้นมาว่า “นานมาแล้วในจักรวาลอันไกลโพ้น...” ทุกคนก็จะรอคอยให้หนังเรื่องนี้ดำเนินไปไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็ตาม ... และคราวนี้มหากาพย์สตาร์วอร์สวนกลับมาในมือของผู้กำกับ เจเจ แอบรัมส์ ผู้เปิดปฐมบทของไตรภาคล่าสุดของสตาร์วอร์ส Star Wars: The Force Awakens จนทำรายได้ถล่มทลาย กลับมาทำหน้าที่กำกับภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของครอบครัวแห่งพลังใน Star Wars: The Rise of Skywalker Star Wars: The Rise of Skywalker หรือ กำเนิดใหม่สกายวอล์คเกอร์ เล่าถึง 1 ปีหลังจากสงครามใหญ่ เรย์ ฟินน์ โพ แดเมรอน และเจ้าหญิงเลอา เหล่าแกนนำฝ่ายต่อต้าน (Resistance) ยังหนีหัวซุกหัวซุนจากการไล่ล่าของปฐมภาคี (First Order) ที่ไคโล เรน ยึดอำนาจมาได้ ต่างฝ่ายต่างขอพักกายพักใจเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่สมรภูมิสุดท้ายแห่งการต่อสู้อันยาวนาน ซึ่งทุกฝ่ายรู้ดีว่าสงครามครั้งสุดท้ายนี้จะสิ้นสุดเช่นไร? ไปที่นักแสดงกันก่อนเพราะเรื่องนี้ขอชื่นชมทั้งเดซีย์ ริดลีย์ และอดัม ไดรเวอร์ ในบทเรย์ เบน โซโล และไคโร เรน ความซับซ้อนและการแบกหนังทั้งเรื่อง ตั้งแต่การต่อสู้และห้วงดราม่า มีพัฒนาการที่ดีทั้งคู่ ส่วนตัวละครอื่นๆ ก็เกลี่ยบทกันไปให้ได้เห็นหน้าตากล้อมแกล้ม แต่ตรรกะของโพ แดเมรอน และฟินน์นั้นยังมีจังหวะให้ปวดเศียรเวียนเกล้ากับอนาคตของเหล่าฝ่ายต่อต้านอยู่มาก ไปที่ฉากยังตื่นเต้นเร้าใจตามสไตล์สตาร์วอร์ส แต่ไม่มีอะไรใหม่ให้หวือหวาอ้าปากค้างได้เท่าไหร่ และออกแนวจะน่าเบื่อขาดความคิดสร้างสรรค์ แต่ดึงซีนรำดาบไลท์เซเบอร์ให้แบบเต็มอิ่มเต็มอารมณ์เพราะต้องฟันไปคุยไปเดี๋ยวหนังยาว ตัวละครน่ารักจิ้มลิ้มที่จะเข้ามาดูดเงินในกระเป๋าตามสไตล์ดิสนีย์ไม่ค่อยมีโผล่มาให้เห็นในเรื่องนี้ เหมือนเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของตัวละครและเรื่องราวที่จะดำเนินไปเสียจนขาดดีเทลพวกนี้ไป ในภาคนี้ยอมรับว่าเป็นโจทย์ที่ยากของทีมสร้างและนักแสดง ในการตีความ ไขข้อข้องใจของคำถามต่างๆที่เกิดขึ้นสะสมมาตั้งแต่ภาค 7 และ 8 ประมาณว่ามีโจทย์อัตนัยไว้ให้ตอบเป็นร้อยข้อ แต่มีเวลาแค่ 2 ชั่วโมง แถมยังต้องเก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุด และยังต้องให้โมเมนต์แฟนเซอร์วิสให้ได้กรี๊ดกราดกันอีก จึงเกิดซีนอ้าปากค้างแบบงงๆ อยู่หลายครั้งในเรื่อง และขอย้ำว่าทำการบ้านไปสัก 2 ภาคก่อนหน้า เพื่อความเข้าใจภาพยนตร์เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในภาคนี้ Star Wars ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน คือ วิสัยทัศน์ของจอร์จ ลูคัส ในการฉายภาพของการต่อสู้ระหว่างระบอบเผด็จการและประชาธิปไตย และเป็นแสงแห่งความหวังในทุกครั้งที่เราได้ชม ผู้ที่เป็นแฟนตัวยงจะรู้ดีว่าสงครามนี้มันไม่ได้จบลงง่ายๆอย่างในหนัง การต่อสู้เพื่อชัยชนะของฝ่ายต่อต้านหรือประชาธิปไตยอิสรภาพนั้นยังคงอีกยาวไกล เพราะผู้กระหายอำนาจก็จะยังเสาะแสวงหาโอกาสตั้งตนขึ้นมาเป็นใหญ่อยู่เสมอ แต่ฝ่าย Resistant ก็ไม่เคยหมดหวัง ซึ่งเป็นมุมมองที่ลูคัสอยากให้เป็น โดยสรุปแล้ว Star Wars: The Rise of Skywalker เป็นการจบไตรภาคล่าสุดที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวแบบม้วนเดียวจบที่ครบเรื่องครบรสแต่ขาดความสมเหตุสมผล ดูพอสนุกสนานกล้อมแกล้ม แต่เชื่อว่าดิสนีย์คงไม่อาจหยุดเส้นทางสงครามแห่งดวงดาวไปง่ายๆ และอาจได้เห็นเส้นทางใหม่ของสงครามแห่งจักรวาลต่อไปอีกนาน (วิจารณ์ภาพยนตร์โดย นีธิกาญจน์ กำลังวรรณ) - READ MORE
By
Sat, 21 Dec 2019 06:29:09 +0700
 
PREVIOUS NEXT
Tagged: #Star #The #Rise #Skywalker
ADD COMMENT
Topic
Name
2+1 =