หนึ่งในข่าวใหญ่ในสหรัฐฯ ตั้งแต่เปิดศักราชปี 2023 ก็คือ ข่าวที่ ดามาร์ แฮมลิน (Damar Hamlin) ผู้เล่นของทีมฟุตบอลอาชีพจากเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ค ประสบภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันในระหว่างการแขงขัน “มันเดย์ ไนท์” ที่ถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์ทั่วประเทศเมื่อวันจันทร์ที่ 2 มกราคม เว็บไซต์สุขภาพ Hopkins Medicine ระบุว่า ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันจะเกิดขึ้นเมื่อหัวใจหยุดเต้น ทำให้เลือดไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงสมองและอวัยวะส่วนอื่น ๆ ได้ นอกจากนี้ ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันยังอาจทำให้หมดสติ พิการ หรือเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาในทันที ทีมฟุตบอลบัฟฟาโล บิลส์ (Buffalo Bills) กล่าวในแถลงการณ์ว่า "ดามาร์ แฮมลิน เกิดอาการหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันหลังการปะทะในการแข่งขันกับทีมเบงกอลส์ แต่การเต้นของหัวใจของเขาก็กลับคืนมาในสนาม…” เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขัน “มันเดย์ ไนท์” นัดสำคัญระหว่างบิลส์ และ ซินซินเนติ เบงกอลส์ (Cincinnati Bengals) เมื่อวันที่ 2 มกราคม โดยหลังจากที่แฮมลินหยุดผู้เล่นจากทีมเบงกอลส์ได้ เขาก็ลุกขึ้นยืนและทรุดตัวลงในสนามอย่างรวดเร็ว   จากนั้น เจ้าหน้าที่การแพทย์ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อฟื้นคืนชีพให้กับผู้ที่หยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้นให้กลับมามีชีพจรดังเดิมอีกครั้ง หรือ CPR ขณะที่ ผู้เล่นจากทั้งสองทีมต่างพากันร้องไห้และสวดอ้อนวอนใน ก่อนที่ ทีมแพทย์จะนำตัวของแฮมลินไปที่ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยซินซินเนติ โดย สมาคมฟุตบอลแห่งชาติหรือ NFL ประกาศยุติการแข่งขันไว้ชั่วคราว ทั้งนี้ แฮมลินได้รับบาดเจ็บในขณะที่เข้าปะทะกับ ที ฮิกกินส์ ผู้เล่นของเบงกอลส์ ซึ่งไม่ใช่การเล่นที่มีความรุนแรงผิดปกติแต่อย่างใด โดยไหล่ขวาของฮิกกินส์กระแทกเข้ากับหน้าอกของแฮมลินในขณะที่วิ่งไปพร้อมลูกบอล และหลังแฮมลินปะทะกับฮิกกินส์และล้มลง เขาก็ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งจัดหมวกกันน็อคให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนที่จะทรุดตัวลงไป   ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจกล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำทำให้แฮมลินหัวใจวาย แต่พวกเขากล่าวว่า ภาวะที่เกิดขึ้นได้ยากที่เรียกว่า คอมโมชิโอ คอร์ดิส (commotio cordis) ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อมีการกระแทกที่หน้าอกอย่างรุนแรงจนทำให้หัวใจสั่น ส่งผลให้หัวใจหยุดเต้นอย่างเฉียบพลัน ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่สามารถเป็นไปได้ นายแพทย์ ร็อด พาสแมน (Rod Passman) ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ของ Feinberg School of Medicine แห่งมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น บอกกับเอพีว่า อาการนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก ตัวอย่างเช่น อาจเกิดขึ้นเมื่อของมีคมกระแทกเข้าที่หัวใจโดยตรงแบบผิดจังหวะในระหว่างกิจกรรมการเต้นปกติของหัวใจ ขณะที่ นายแพทย์ มาร์ค ลิงค์ (Dr. Mark Link) ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจจาก UT Southwestern Medical Center ในเท็กซัสกล่าวว่า คอมโมชิโอ คอร์ดิส นั้นเกิดขึ้น “ประมาณ 20 ครั้งในหนึ่งปี” และประมาณ 60% ของผู้ที่มีภาวะนี้สามารถรอดชีวิตได้ ส่วนนายแพทย์อามัน เชิก (Dr. Aman Chugh) ศาสตราจารย์ด้านหัวใจวิทยาของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ชี้ว่า การยื้อยุดฉุดกระชากอย่างหนักเพื่อแย่งลูกกันนั้น เป็นเรื่องปกติธรรมดามากในวงการฟุตบอล และคอมโมชิโอ คอร์ดิส ก็เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้ยากมาก นายแพทย์ลิงค์ จาก UT Southwestern Medical Center กล่าวเสริมว่า สิ่งที่เป็นอันตรายมากสำหรับผู้ที่รอดชีวิตก็คือ การที่สมองถูกทำลายจากการขาดออกซิเจนเมื่อหัวใจหยุดสูบฉีดเลือด ซึ่งแพทย์สามารถลดความเสี่ยงดังกล่าวได้ด้วยการให้ยาระงับประสาทเพื่อให้สมองได้พักผ่อน แพทย์หญิงแมเรียล เจสซัพ (Dr. Mariell Jessup) หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของสมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกา (American Heart Association) กล่าวว่า การเป็นโรคหัวใจอยู่ก่อนแล้วเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน แต่ประวัติทางการแพทย์ของแฮมลินยังไม่ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะชน แพทย์หญิงเจสซัพ กล่าวว่า "ไม่ใช่เรื่องแปลก" ที่นักกีฬาจะมีโรคหัวใจโดยที่แพทย์ไม่ได้ตรวจพบ ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้เล่นที่อายุน้อย สมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกากล่าวด้วยว่า ในแต่ละปีมีผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันมากกว่า 365,000 คนที่ไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาล การอยู่รอดของพวกเขานั้นขึ้นอยู่กับการทำ CPR อย่างรวดเร็วและการช็อตไฟฟ้าเพื่อทำให้การเต้นของหัวใจกลับมาเป็นปกติอย่างที่เกิดขึ้นกับแฮมลินตามรายงานข่าว อย่างไรก็ตาม แพทย์หญิงเจสซัพ กล่าวว่า สิ่งที่สามารถเรียนรู้ได้จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็คือ ควรเรียนรู้การทำ CPR   ที่มา: เอพี - READ MORE

By thai@voanews.com (AP)

Tue, 31 Jan 2023 05:00:00 +0700