เมื่อคืนวันอังคาร ซาราห์ ฮักคาบี แซนเดอร์ส ผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอจากรัฐรีพับลิกัน แถลงตามธรรมเนียมการเมืองอเมริกัน เพื่อตอบโต้สุทรพจน์เรื่องนโยบายและผลงานประจำปีครั้งที่ 2 ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยเน้นไปที่ประเด็นสงครามวัฒนธรรมระหว่างทั้งสองพรรค และกล่าวหาว่า ผู้นำสหรัฐฯ สนใจแต่ “ฝันกลางวันของพวกโว้ก (woke)” ตามรายงานของเอพี
ทั้งนี้ คำว่า woke เป็นคำแสลงที่ใช้ระบุถึงผู้ที่มีความตื่นต่อประเด็นคติทางเชื้อชาติและการเลือกปฏิบัติ โดยมักมีแนวคิดไปในทางเสรีนิยม และยังเป็นคำที่ผู้ที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมใช้กล่าวถึงกลุ่มคนดังกล่าวในเชิงลบด้วย
แซนเดอร์สเตือนว่า อุดมการณ์ของสหรัฐฯ กำลัง “ถูกโจมตี” และชาวอเมริกันกำลังต่อสู้เพื่อเสรีภาพของตน ซึ่งเอพีตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการแสดงแนวความคิดคล้ายกับอดีต ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ที่เธอเคยทำงานด้วยในฐานะโฆษกทำเนียบขาวราวสองปี
“ขณะที่คุณได้รับผลกระทบจากความล้มเหลวของรัฐบาลไบเดน พวกเขากลับดูสนใจฝันกลางวันของพวกโว้กมากกว่าความจริงอันยากลำบากที่ชาวอเมริกันเผชิญทุกวัน” แซนเดอร์สกล่าว “ชาวอเมริกันส่วนใหญ่แค่อยากใช้ชีวิตพร้อมเสรีภาพและความสงบสุข แต่เรากลับถูกสงครามวัฒนธรรมของฝ่ายซ้ายโจมตี ซึ่งเป็นสงครามที่เราไม่ได้ก่อและไม่เคยคิดที่จะสู้ด้วยเลย”
ท่าทีของแซนเดอร์มีขึ้นเพียงไม่ถึงหนึ่งเดือนหลังเธอสาบานตนเป็นผู้ว่าการหญิงคนแรกของรัฐอาร์คันซอ เธอเป็นลูกสาวของไมค์ ฮักคาบี ซึ่งเป็นอดีตผู้ว่าการรัฐเดียวกัน แซนเดอร์สยังเป็นชาวรัฐอาร์คันซอคนแรกที่แถลงตอบโต้การแถลงประจำปีของประธานาธิบดี นับตั้งแต่ที่บิล คลินตัน เคยแถลงตอบโต้เมื่อครั้งที่เขาเป็นผู้ว่าการรัฐนี้เมื่อปี 1985
แถลงของแซนเดอร์สนี้ ถือเป็นการกลับมา “เปิดตัว” อีกครั้งของเธอ หลังจากที่ในช่วงที่เธอเป็นหัวหน้าโฆษกของทรัมป์ แซนเดอร์สได้ลดบทบาทการแถลงประจำวันผ่านทางโทรทัศน์ หลังเธอแลกวิวาทะกับผู้สื่อข่าวที่ตั้งคำถามอย่างดุเดือดบ่อยครั้ง
ระหว่างการแถลงในวันอังคารนี้ แซนเดอร์สไม่ได้ระบุชื่อของทรัมป์โดยตรง และกล่าวถึงรัฐบาลของไบเดนว่า “ถูกฝ่ายซ้ายหัวรุนแรงปล้นไปทั้งชุดแล้ว”
เธอกล่าวว่า “เส้นแบ่งในอเมริกาไม่ได้เป็นขวาหรือซ้ายอีกต่อไป…แต่ทางเลือกตอนนี้คือความปกติและความบ้า”
ทั้งนี้ ท่าทีของแซนเดอร์สนั้นตรงข้ามกับแถลงของไบเดนโดยสิ้นเชิง โดยผู้นำสหรัฐฯ พยายามสร้างความมั่นใจให้ชาวอเมริกัน และเรียกร้องให้สภาคองเกรสร่วมมือสร้างเศรษฐกิจใหม่ไปกับเขา
เอพีวิเคราะห์ว่า การที่แซนเดอร์สได้รับบทบาทเป็นผู้แถลงตอบโต้ ปธน. ไบเดนนั้น แสดงให้เห็นว่าแกนนำพรรครีพับลิกันเปิดพื้นที่ให้กับผู้ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทรัมป์ ที่ยังคงมีอิทธิพลในพรรครีพับลิกัน แม้สมาชิกพรรคจะตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ที่ลดลงเรื่อย ๆ ที่ทรัมป์จะได้กลับมาเป็นผู้นำสหรัฐฯ อีกครั้ง ท่ามกลางสารพัดคดีที่เขาเผชิญ
การกลับมาของแซนเดอร์ส วัย 40 ปี ยังทำให้ชาวอเมริกันหันมาสนใจผู้ว่าการรัฐที่มีอายุน้อยที่สุด ณ เวลาปัจจุบัน ผู้นี้ ซึ่งตรงข้ามกับ ปธน. ไบเดน วัย 80 ปี ที่ผลสำรวจล่าสุดเผยว่า แม้แต่สมาชิกพรรคเดโมแครตจำนวนมากยังคิดว่า อายุของไบเดนอาจเป็นอุปสรรคต่อการลงเลือกตั้งรักษาตำแหน่งสมัยที่สองของเขา
แซนเดอร์สยกประเด็นความต่างของอายุนี้ขึ้นมาด้วยเช่นกัน โดยกล่าวว่า ปธน. ไบเดน เป็นผู้นำสหรัฐฯ ที่มีอายุมากที่สุด และ “นี่เป็นเวลาของรีพับลิกันรุ่นใหม่แล้ว”
แถลงของแซนเดอร์สมีขึ้นขณะที่เริ่มมีการรณรงค์หาเสียงชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งใหญ่ปีหน้า โดยนอกจากทรัมป์ที่เล็งลงแข่งในสนามเลือกตั้งใหญ่เป็นครั้งที่สามแล้ว ก็ยังมีนิกกิ เฮลีย์ อดีตทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติในยุคของทรัมป์ โดยคาดว่าเธอจะประกาศลงชิงตำแหน่งดังกล่าวในสัปดาห์หน้า
อาซา ฮัตชินสัน อดีตผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอที่ดำรงตำแหน่งก่อนแซนเดอร์ส ก็อาจลงชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกันด้วยเช่นกัน โดยเขาเป็นผู้วิจารณ์ทรัมป์อย่างเปิดเผย และกล่าวว่า หากทรัมป์ได้เป็นตัวแทนของพรรครีพับลิกัน จะถือเป็น “สถานการณ์เลวร้ายที่สุด” ของพรรค
ทั้งนี้ แซนเดอร์สใช้กลยุทธ์วิจารณ์ไบเดนอย่างหนัก นับตั้งแต่ช่วงที่เธอหาเสียงลงชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอเมื่อปีที่แล้ว โดยมักเน้นไปที่การจัดการการระบาดของโรคโควิด-19 นโยบายผู้อพยพ และนโยบายอื่น ๆ
ระหว่างการแถลงเมื่อวันอังคาร แซนเดอร์สยังกล่าวถึงความสำเร็จในช่วงที่เธอเคยทำงานกับรัฐบาลทรัมป์ โดยทรัมป์เคยรับรองเธอระหว่างการเลือกตั้งผู้ว่ารัฐ และปรากฏตัวในอุปกรณ์โฆษณาหาเสียงของเธอ อย่างไรก็ตาม แซนเดอร์สยังไม่เปิดเผยว่า เธอจะรับรองทรัมป์ในการลงเลือกตั้งใหญ่ปีหน้าหรือไม่
ที่มา: เอพี
- READ MORE
By thai@voanews.com (AP)
Thu, 09 Feb 2023 07:48:54 +0700