Search
 
NEWS
 

ปฏิบัติการของ “แวกเนอร์กรุ๊ป” ในประเทศต่าง ๆ

 
 
รอยเตอร์รวบรวมข้อมูลของกลุ่มทหารรับจ้าง “แวกเนอร์กรุ๊ป” (Wagner Group) ที่ปฏิบัติการในประเทศต่าง ๆ หลังทางกลุ่มพยายามก่อกบฏในรัสเซียเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนล้มเลิกแผนดังกล่าวไป   ยูเครน แวกเนอร์กรุ๊ปปฏิบัติการในยูเครนไม่นานหลังรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อช่วงต้นปี 2022 และนำนักโทษหลายพันคนมาเป็นกำลังต่อสู้ในด่านหน้าสมรภูมิ เมื่อช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ประมาณการว่า นับจนถึงเดือนธันวาคม แวกเนอร์กรุ๊ปมีบทบาทสำคัญในสมรภูมิเมืองบาคห์มุต และเกณฑ์นักโทษราว 40,000 คนเพื่อสู้รบในยูเครน ขณะที่ทางกลุ่มไม่ระบุถึงจำนวนนักรบที่แน่ชัด แกนนำของแวกเนอร์กรุ๊ปอ้างว่า ทางกลุ่มทำให้รัสเซียประสบความสำเร็จในสมรภูมิเมืองบาคห์มุต ขณะเดียวกันก็วิจารณ์ยุทธวิธีและบทบาทนำของกระทรวงกลาโหมรัสเซียด้วยเช่นกัน   เบลารุส เยฟเกนี พริโกชิน หัวหน้าของแวกเนอร์กรุ๊ป เดินทางถึงเบลารุสเมื่อวันอังคาร ภายใต้ข้อตกลงกับประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ของเบลารุส ขณะที่ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวว่า นักรบของแวกเนอร์กรุ๊ปสามารถเลือกย้ายไปอยู่เบลารุสได้ ภาพถ่ายทางดาวเทียมของฐานทัพบริเวณใกล้เมืองอสิโพวิชิทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมินสก์ ซึ่งสื่อรัสเซียรายงานว่าจะเป็นฐานทัพใหม่ของแวกเนอร์กรุ๊ป เผยให้เห็นโครงการก่อสร้างใหม่ ที่อาจบ่งชี้ว่าแวกเนอร์กรุ๊ปเตรียมก่อสร้างฐานที่มั่นของตนในเบลารุสอย่างรวดเร็ว   ซีเรีย รัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหารในซีเรียเมื่อปี 2015 เพื่อสนับสนุน ปธน.บะชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย โดยให้ทหารอากาศประจำการที่ฐานทัพฮเมมิม รวมถึงให้ทหารรับจ้างรวมทั้งแวกเนอร์กรุ๊ป  ไปปฏิบัติการภาคพื้นดินและด้านความมั่นคง ขณะที่กองกำลังสหรัฐฯ ได้สังหารนักรบของแวกเนอร์กรุ๊ปหลายร้อยคนระหว่างการสู้รบในซีเรียเมื่อปี 2018 ทั้งนี้ แวกเนอร์กรุ๊ปดูแลบ่อน้ำมันอัล-เชียร์ และเป็นเจ้าของบริษัท Evro Polis ที่ได้รับส่วนแบ่งกำไร 25% จากบ่อน้ำมันต่าง ๆ ตามข้อมูลของชาติตะวันตก แวกเนอร์กรุ๊ปยังเกณฑ์อดีตนักรบกลุ่มกบฎของซีเรียจากพื้นที่ที่กองกำลังของผู้นำซีเรียยึดกลับคืนมาได้ และนำนักรบเหล่านี้มาปฏิบัติการในฐานะทหารรับจ้างที่ลิเบียในปี 2019 ขณะที่ฐานทัพฮเมมิมกลายเป็นฐานปฏิบัติการด้านคมนาคมที่สำคัญของแวกเนอร์กรุ๊ป โดยเป็นทางผ่านของเที่ยวบินไปยังรัสเซีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ลิเบีย แวกเนอร์กรุ๊ปปฏิบัติการในลิเบียเมื่อปี 2019 เพื่อสนับสนุนกองกำลังของคาลิฟา ฮัฟตาร์ ผู้บัญชาการทหารบก ในการขับไล่รัฐบาลลิเบียที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ เมื่อปี 2020 กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อาจเป็นผู้ว่าจ้างให้แวกเนอร์กรุ๊ปปฏิบัติการสนับสนุนฮัฟตาร์ ชณะที่ทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไม่มีความเห็นต่อประเด็นดังกล่าว ในปีเดียวกัน สหประชาชาติรายงานว่า แวกเนอร์กรุ๊ปนำนักรบ 1,200 คน เข้าปฏิบัติการในลิเบีย ขณะที่กองบัญชาการทหารสหรัฐฯ ภาคพื้นแอฟริกา กล่าวว่า นักรบของแวกเนอร์กรุ๊ปได้รับการสนับสนุนจากเครื่องบินรบรัสเซีย ทั้งนี้ แวกเนอร์กรุ๊ปปฏิบัติการทางอากาศจากฐานทัพอากาศจูฟรา ทางตอนใต้ของกรุงตริโปลี และได้รับเครื่องบินรบเก่าของรัสเซียบางส่วนจากฐานทัพอากาศในซีเรีย  ทางกลุ่มยังร่วมสู้รบกับนักรบจากซีเรีย ซูดาน ชาด และประเทศอื่น ๆ ด้วย หลังมีข้อตกลงหยุดยิงในปี 2020 และปฏิบัติการของฮัฟตาร์ล้มเหลวลง แวกเนอร์กรุ๊ปยังคงอยู่ในลิเบียตามฐานทัพในเขตจูฟรา และฐานทัพอากาศอื่น ๆ ทางตอนใต้และทางตะวันออกของลิเบีย ผู้เชี่ยวชาญมองว่า แวกเนอร์กรุ๊ปใช้ฐานทัพเหล่านี้เพื่อเดินทางไปยังประเทศแอฟริกาอื่น ๆ แวกเนอร์กรุ๊ปยังปฏิบัติการบริเวณรอบบ่อน้ำมันหลักของลิเบีย โดยผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ทางกลุ่มมีผลประโยชน์การค้าในลิเบีย รวมทั้งการผลิตพลังงานและเครือข่ายลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน สาธารณรัฐแอฟริกากลาง ทหารรับจ้างของรัสเซีย รวมทั้งแวกเนอร์กรุ๊ป เข้าปฏิบัติการในประเทศนี้เมื่อปี 2018 เพื่อสนับสนุนรัฐบาลในการระงับเหตุสงครามกลางเมืองที่มีมาตั้งแต่ปี 2012 ในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก ทูตรัสเซียประจำสาธารณรัฐแอฟริกากลางให้สัมภาษณ์กับสื่อรัสเซีย RIA เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า มี “ครูฝึกชาวรัสเซีย” 1,890 คน อยู่ในประเทศดังกล่าว นักวิเคราะห์กล่าวว่า แวกเนอร์กรุ๊ปได้สิทธิ์การทำป่าไม้และควบคุมเหมืองทองในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง และในสัปดาห์นี้ สหรัฐฯ ออกมาตรการลงโทษบริษัทแห่งหนึ่งในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง พร้อมกับบริษัทอื่น ๆ รวมทั้งจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วยเหตุผลว่า มีส่วนเกี่ยวช้องกับการให้เงินทุนแวกเนอร์กรุ๊ปผ่านการค้าทองคำแบบผิดกฎหมาย  มาลี ทั้งรัสเซียและมาลีกล่าวว่า นักรบของรัสเซียในมาลีไม่ได้เป็นทหารรับจ้างแต่เป็นครูฝึกที่ช่วยกองกำลังท้องถิ่นสู้รบกับกลุ่มติดอาวุธ จากเหตุขัดแย้งที่ดำเนินมาสิบปี เมื่อปี 2021 กลุ่มผู้นำของมาลีก่อรัฐประหารยึดอำนาจ ขอให้ทหารฝรั่งเศสออกจากประเทศ และนำกลุ่มทหารของแวกเนอร์กรุ๊ปเข้ามาแทน รอยเตอร์รายงานเมื่อปีเดียวกันว่า รัฐบาลมาลีทำสัญญาโดยตรงกับแวกเนอร์กรุ๊ป โดยจ่ายค่าจ้างเดือนละ 10.8 ล้านดอลลาร์ให้กับกลุ่มทหารรับจ้างดังกล่าว ทั้งนี้ นักรบของแวกเนอร์กรุ๊ปถูกกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุสังหารหมู่ในเมืองโมอูราทางตอนกลางของมาลี เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว โดยมีพลเรือนหลายร้อยคนเสียชีวิตจากเหตุดังกล่าวที่อาจเป็นฝีมือของกองกำลังท้องถิ่นและนักรบรัสเซีย ซูดาน ชาติตะวันตกกล่าวว่า แวกเนอร์กรุ๊ปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำเหมืองทอง การเผยแพร่ข้อมูลเท็จ และการวางแผนปราบปรามการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในซูดาน รัสเซียมีความสัมพันธ์กับกองกำลังทหารทั้งสองฝั่งของซูดาน ที่เปิดฉากทำสงครามกลางเมืองตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน ขณะเดียวกัน คาดว่าแวกเนอร์กรุ๊ปมีความสัมพันธ์กับกองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็ว หรือ อาร์เอสเอฟ เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม แวกเนอร์กรุ๊ปปฏิเสธว่าไม่ได้ปฏิบัติการในซูดาน นักรบของทางกลุ่มไม่ได้อยู่ในซูดานมากกว่าสองปีแล้ว และทางกลุ่มไม่มีบทบาทต่อการสู้รบในซูดานแต่อย่างใด ซึ่งสวนทางกับท่าทีของสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่กล่าวหาแวกเนอร์กรุ๊ปว่า มอบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศให้กับอาร์เอสเอฟ และทำให้ “เหตุความขัดแย้งยืดเยื้อ ทำให้เกิดความโกลาหลในภูมิภาคมากขึ้น” ที่มา: รอยเตอร์ - READ MORE
By thai@voanews.com (Reuters)
Sat, 01 Jul 2023 08:05:33 +0700
 
PREVIOUS NEXT
Tagged:
ADD COMMENT
Topic
Name
1+5 =