กลุ่มผู้สนับสนุนรัฐประหารในประเทศไนเจอร์บุกสร้างความเสียหายและวางเพลิงสำนักงานใหญ่ของพรรครัฐบาลที่นครหลวงนีอาเมในวันพฤหัสบดี
ความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นนี้หลังจากกองทัพบกประกาศหนุนการยึดอำนาจของทหารอารักขาประธานาธิบดีโมฮาเมด บาซูม
นักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า เห็นควันไฟสีดำพวยพุ่งออกมาจากตึกสำนักงานใหญ่พรรครัฐบาล หลังจากที่ผู้สนับสนุนรัฐประหารหลายร้อยคนมุ่งหน้าไปที่สถานที่ดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้คนเหล่านั้นรวมตัวกันด้านหน้าของสภานิติบัญญัติ
ในเวลาต่อมาตำรวจสามารถสลายฝูงชนได้ ด้วยการยิงแก๊สนำ้ตา
ผู้สนับสนุนการปฏิวัติครั้งนี้เปิดเพลงชื่นชมกองทัพ บางรายโบกธงรัสเซีย และตะโกนถ้อยคำต่อต้านฝรั่งเศส ซึ่งสะท้อนถึงความไม่พอใจอิทธิพลของฝรั่งเศสซึ่งเคยปกครองดินเเดนแห่งนี้ในยุคจักรวรรดินิยม และบทบาทของฝรั่งเศสในภูมิภาคซาเฮล
ความนิยมในตัวประธานาธิบดีบาซูม ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้นำไนเจอร์เมื่อ 2 ปีก่อนถูกท้าทายจากความไม่มั่นคงในประเทศ
กลุ่มนักรบหัวรุนแรงทางศาสนาเริ่มฝังรากลึกช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมาในประเทศมาลี ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของไนเจอร์ และแผ่ขยายอิทธิพลมากขึ้น โดยนักรบเหล่านี้สังหารผู้คนหลายพันคนและทำให้ประชาชนต้องย้ายถิ่นฐานกว่า 6 ล้านในเขตซาเฮล
พันเอกอามาดู แอบดรามานี ซึ่งเป็นผู้อ่านเเถลงการณ์การยึดอำนาจออกโทรทัศน์ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่อีก 9 คนที่รายล้อมเขาอยู่ กล่าวถึงเหตุผลที่กองทัพและหน่วยรักษาความมั่นคงดำเนินการเช่นนี้ ว่า เป็นเพราะประเทศกำลังสูญเสียความมั่นคงและขาดธรรมาภิบาล
ขณะนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าใครคือผู้ขึ้นครองอำนาจ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เป็นหัวหน้าหน่วยทหารอารักขาประธานาธิบดีซึ่งก่อรัฐประหารครั้งนี้ มีชื่อว่า พลเอกโอมาร์ ทะเชียนิ
ประธานาธิบดีบาซูมกล่าวผ่านโซเชียลมีเดียเช้าวันพฤหัสบดีว่า เขายืนยันที่จะปกป้องความก้าวหน้าทางประชาธิปไตย "ที่ได้มาอยากยากลำบาก"
เกิดรัฐประหารเช่นกันในประเทศมาลี และเบอร์กินาฟาโซ อีกประเทศอื่นบ้านของไนเจอร์ ในปี 2020 และ 2022 ตามลำดับ
หลังการล้มล้างรัฐบาลเดิม ผู้นำทหารดำเนินความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซียมากขึ้น ทั้งยังตัดความเป็นมิตรกับประเทศตะวันตกซึ่งเป็นเเนวร่วมเดิม
ที่มา: รอยเตอร์
- READ MORE
By thai@voanews.com (Reuters)
Fri, 28 Jul 2023 04:39:34 +0700